คำเตือนสำหรับผู้คัดลอก

เนื่องจากมีผู้คิดคัดลอก บทความบางส่วน หรือ บทความทั้งหมด จากเว็บบล็อก http://mountainbikedetail.blogspot.com/
ผู้ที่คัดลอกต้องแสดงการอ้างอิง หรือ ให้ลิงค์กลับมายัง เวบบล็อก ของเราหรือแสดงความจำนงที่จะนำบทความไปใช้ โดยแจ้งผ่านทางอีเมล์ หรือ ทางแฟนเพจ

มิฉะนั้น ทางเราจะแจ้งดำเนินคดี ฟ้องร้องการละเมิดลิขสิทธ์

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Gary Fisher ออกจักรยานเสือภูเขา Collection ใหม่ ให้ Trek แล้ว

โฆษณา
Gary Fisher withTrek Cortina Italy
Gary กับจักรยานที่เค้าใช้ทดสอบในอิตาลีครับ

New Trek Collection Mountain Bike from Gary Fisher

อาจจะต้องเป็นหัวข้อภาษาอังกฤษนิดหน่อยนะครับ สำหรับปีนี้ Gary Fisher ได้คิดค้นพัฒนาจักรยานคอลเลคชั่นใหม่ของเค้าให้แก่ Trek ซึ่งเป็นจักรยานประเภท Cross Country ซึ่งในสื่อต่างชาติเค้าให้ความสนใจกันมาก และก่อนการจะออกผลิตภัณฑ์อะไรใหม่ๆ Trek เค้าจะมีการทดสอบที่ดีมาก ซึ่งอาจจะเรียกว่า มันเป็น World Tour ของ Trek เลยก็ว่าได้ เพราะเค้าจะขนทีมออกแบบ พวกวิศว พวกนักวิจัย อะไรต่อมิอะไรของเขาไปทดสอบหาอะไรดีๆจากการทัวร์นาเมนท์ของพวกเค้า



อย่างรุ่น Rumblefish Pro 2013 พวกเขาไปทดสอบประสิทธิภาพที่ใจกลางเทือกเขา Dolomites ในประเทศอิตาลี ใครที่อยากรู้ว่าสภาพมันโหดอย่างไร จะค้นหาจากกูเกิ้ลก็ได้นะครับ ดูรูปเอา แต่ถ้าขี้เกียจหาข้อมูลเพิ่ม ก็อาศัยดูรูปและอ่านจากบล็อกของผมก็ได้ ไอ้ขุนเขาที่ว่านี่ มันมีทั้งความสูงชัน และมีหิมะด้วย ดังนั้นแน่นอนครับว่า รถที่จะผ่านการทดสอบจนทีมงานของ Trek พึงพอใจก็คือ มันต้องไม่หนัก ปีนเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบเบรก ระบบช็อคอัพ อีกอย่างคือ มันจะต้องทำความเร็วได้ด้วย เมื่อดูจากรูปการทดสอบแล้ว มีบางรูปที่นักปั่นจะต้องแบกจักรยานไปด้วย เพราะเส้นทางมันอันตราย และไม่สามารถปั่นผ่านไปได้

Trek Cortina Italy test
บางเส้นทางนักปั่นก็ต้องแบก..รถจึงต้องเบามาก

2013 Rumblefish and the all-new Fuel EX

ยังไม่พอกับการทดสอบนี้ พวกเขายังยกกองทดสอบไปที่ Big mountain ใน แคนาดา ซึ่งการทดสอบครั้งนี้มีนักนำทาง หรือซุปเปอร์ไกด์อย่าง Chris Winters แล้วการทดสอบที่เทือกเขาก็เช่นกัน นักปั่นถึงกับโอดครวญถึงเส้นทางที่ มิสเตอร์วินเตอร์พาไป แต่พอไปถึงยอดเขา พวกเขาถึงกับบอกว่า เขาลืมไปเลยว่าช่วงเวลาที่หฤโหดนั่นเป็นเช่นไร มันสวยงามมาก ถึงแม้จะมีออกซิเจนน้อย แต่เมื่อพวกเขามาถึงจุดนี้ พวกเขาก็ลืมความเหน็ดเหนื่อยไปจนสิ้น และการทดสอบนี้คุณจะได้รู้กันว่า มันยอดเยี่ยมจริงหรือไม่เมื่อคุณได้ลองสัมผัสกับ 2013 Rumblefish and the all-new Fuel EX

การทดสอบครั้งนี้กับโปรดักส์ ไลน์ใหม่ของ Trek ไม่มีการกล่าวถึงรุ่น Remedy ครับ แต่อย่างไรก็ตาม ใครที่ชอบ Remedy ตอนนี้ในเวบไซต์ต่างประเทศก็เริ่มมีการรีวิวกันแล้ว ถึงรุ่น Remedy 9.9 2013 เอาไว้คราวหน้าผมจะนำรุ่นนี้มาเขียนให้แฟน Trek ได้อ่านกันว่ามันจะแตกต่างจากรุ่นในปีนี้อย่างไร

Trek Cortina Italy test bike
มันจะต้องไปได้ทุกเส้นทาง..

ส่วนในประเทศไทย ความจริงก็มี จักรยานรุ่นใหม่จาก Trek มาจำหน่ายกันแล้ว เช่น

  • Trek 3900 ปี 2013 แบบ ดิสเบรค ราคา 15,500 บาท ส่วนรุ่น วีเบรก 13,500 บาท
  • Trek 3700 ปี 2013 ดิสเบรก 24 สปีด เฟรม อลูมิเนียม อัลลอยด์ ราคาเริ่มต้น 14200 บาท
  • Trek 4300 ปี 2013 ดิสเบรกแบบน้ำมัน 27 สปีด โช้คหน้า SR Suntour ระบบน้ำมัน ล็อคได้ ราคา 19,900 บาท
  • Trek 4900 ปี 2013 30 สปีด ดิสเบรกแบบน้ำมัน โช้คหน้า SR Suntour ระบบน้ำมัน ล็อคได้ ราคา 33,500 บาท

จักรยานใหม่ล่าสุดจาก Trek ในปี 2013

Superfly (ราคาเริ่มต้นที่ 60,000- 256000 บาท โดยประมาณ)

ในรุ่นนี้จะประกอบได้ด้วยรุ่น ธรรมดา, AL, Comp, SL SL (ซึ่งแต่ละโมเดลก็จะแบ่งเป็น Elite และ Pro นะครับ) ซึ่งรุ่น Pro SL จะมีราคาแพงสุด ประมาณ 2.5 แสนบาท นอกจากนี้รุ่นนี้จะเป็นแบบ Hard tail ไม่มีโช้คอัพด้านหลังนั้นเองครับ

Concept หรือ แนวคิดของ ซุปเปอร์ฟลาย ก็คือ
  • น้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ซึ่งจะอยู่ในรุ่น SL เฟรมจะเป็นคาร์บอน แข็งแกร่งและน้ำหนักเบา)
  • จากนั้นก็มีล้อขนาดใหญ่เพื่อการขับขี่ที่ดีขึ้น เร็วขึ้น ล้อจะมีขนาด 29er หรือ ล้อประมาณ 29 นิ้ว
  • มีการพัฒนาเฟรมขั้นสูง และลูกค้าหรือผู้ขับขี่สามารถปรับโช้คได้เองแม้จะความเร็วต่ำ แล้วก็ไม่สูญเสียความมั่นคงในความเร็วสูง

Trek Superfly 2013
Trek Superfly 2013

Superfly 100 (ราคาเริ่มต้นที่ 68,000- 275,000 บาทโดยประมาณ)

รุ่นนี้แตกต่างจากข้างบนตรงที่เป็นแบบ Full Suspension Bike ขนาด 29 นิ้วเช่นกัน แต่ที่เพิ่มก็คือ เร็วขึ้น, ควบคุมรถได้ดี เรียกได้ว่า มันช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีอย่างที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน
Concept ก็ไม่แตกต่างจากรุ่น ซุปเปอร์ฟลาย คือเน้นน้ำหนักเบา โครงเป็นคาร์บอน, ขับขี่ได้ลื่นไหลมากขึ้น เร็วขั้น เวลาเบรกก็จะไม่รู้สึกกระด้าง เพราะมีระบบ ABP (Active Braking Pivot) เข้ามาช่วย
รุ่นนี้จะประกอบไปด้วย รุ่น AL, SL (ซึ่งแต่ละโมเดลก็จะแบ่งเป็น Elite และ Pro นะครับ)

Trek Superfly100  2013
Trek Superfly 100

Rumblefish: Singletrack Trail Bike (ราคาเริ่มต้นที่ 75,000- 130,000 บาทโดยประมาณ)

คันเดียวเที่ยวได้ทั่วโลก เพราะมันถูกสร้างมาเพื่อทุกสภาพเส้นทาง ทุกขุนเขาที่มีในโลกนี้ มันเป็นจักรยานสำหรับ Long travel สำหรับผมนะ เหตุผลก็อย่างที่ผมบอกข้างต้นคือ มันถูกออกแบบมาเพื่อทุกขุนเขา ทุกสภาพผิวก็ว่าได้ มาดูกันว่ามันมีอะไรบ้าง มันเป็นจักรยานแบบ Full Suspension และนอกจากนี้ Trek ยังเปลี่ยนมาใช้โช้ค Fox’s 32 fork แทน รุ่น 34 เนื่องจากพวกเขาค้นพบแล้วว่า รุ่น 34 มันจะกระด้างมากกว่า

โช้คหลังแบบ DRCV (Dual Rate Control Valve) technology ซึ่งเป็นโช้คหลังที่สามารถปรับวาลว์แรงดันในโช้คหลังได้ อาจจะไม่ใหม่สำหรับปีหน้า 2013 เพราะมันเป็นเทคโนโลยีที่มีมาแล้ว แต่ในเวบไซต์ต่างประเทศเค้าบอกว่า เค้าพบว่าการปรับระดับของโช้ค ในTrek ที่มี 2 ระดับคือ 5mm กับ 10mm มันมีความแตกต่างกันมาก

แต่สรุปได้ง่ายๆว่าระบบโช้คของ Trek จะถูกออกแบบมาเพื่อการปีน-ลงเขาให้มีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้

Trek Rumblefish 2013
Trek Rumblefish 2013

ยังเหลือรุ่น Fuel EX กับ รุ่น Remedy 9.9 2013 นะครับที่ผมขอติดค้าง ไปหาข้อมูลมาก่อน ไว้เป็นบทความคราวหน้าก็แล้วกัน ฝากรูปไว้ให้ดูเป็นกิเลสไว้ก่อนครับ ^____^

2013 Trek Fuel EX 9.9
Trek Fuel EX 2013

Trek Remedy 9.9 2013
Trek Remedy 9.9 2013
ขอบคุณข้อมูลจาก
โฆษณา advertise


วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เฟรมเสือภูเขา Orbea Occam 29 Hydro สำหรับรถแข่ง ราคาไม่ถึงแสน

โฆษณา

Orbea Occam 29 Hydro เฟรมอลูมิเนียมประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับรถแข่ง


เฟรมเสือภูเขา Orbea Occam 29 Hydro สำหรับรถแข่ง ราคาไม่ถึงแสน

Orbea OCCAM 29 Hydro Full Suspension aluminum alloy 

Orbea OCCAM 29 Hydro เป็นเฟรมอลูมิเนียมประเภท Full Suspension Bike จุดประสงค์เพื่อความได้เปรียบในการแข่งขัน, ปั่นได้อย่างสบาย, รวดเร็ว และไปได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นสถานที่สุดหฤโหดลุยน้ำ ลุยโคลน ไปได้ทั้งหมด (เค้าโฆษณาไว้อย่างนี้นะครับ ผมไม่ได้โม้นะ) ซึ่งทำจากอลูมิเนียมโดยใช้เทคโนโลยี hydroformed.

OCCAM 29 Hydro เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของ OCCAM ซึ่งอาจจะดูเหมือนกับรุ่นเก่ง หรือรุ่นพี่อย่าง OCCAM 26 inch ก็ตาม แต่ว่าสำหรับเฟรมใหม่ล่าสุดนี้ได้มีการปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตใหม่ทั้งหมด คล้ายๆกับรถยนต์น่ะครับที่เค้าเรียกว่า all-new platform มีการใช้เทคโนโลยี Dynamics เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ การออกแบบเฟรม เค้าจะออกแบบในคอมพิวเตอร์ก่อน ทำการทดลองคำนวณหา อัตราการเร่ง การออกตัว การหยุด การเบรก เพื่อให้แน่ใจว่า เฟรมตัวใหม่นี้มีศักยภาพสูงอย่างที่พวกเขาได้ตั้งไว้ จากนั้นเมื่อออกแบบในคอมพิวเตอร์เสร็จแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการนำมาลองทดสอบจริงๆ ใช้นักปั่นจริงๆ และกับทุกเส้นทางที่โหดสุดจริงๆ (ถ้าผ่านโหดสุด ทางเรียบคงจะไม่ต้องพูดแล้วล่ะ)

Orbea Occam 29 Hydro เฟรมอลูมิเนียมประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับรถแข่ง

เมื่อมันเป็นฟูลซันเพนชั่น แน่นอนมันจะต้องมีโช๊คอัพอยู่ที่ด้านหลัง ซึ่งเฟรม ไฮโดร 29 อลูมิเนียมนี้ มีการออกแบบให้ โช๊คอัพ (หรือ บางคนเรียก ช็อคอัพ ตามแต่จะเรียกแล้วกัน) นี้อยู่ข้างล่างท่อนั่ง Seat tube, มันจะอยู่ตรงกลาง เชื่อมต่อกับเพลาหลัง เนื่องจากตำแหน่งนี้ได้รับการวิเคราะห์มาแล้วว่า มันเป็นจุดสมดุลที่สุดในการปั่นจักรยาน ไม่ว่าจะปีนขึ้นเขาหรือลงเขา หรือแม้กระทั่งการเบรค ซึ่งการเบรกเป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญ เค้าว่ากันว่า การวางโช๊คอัพด้านหลังไม่ดี ไม่ได้สมดุล เวลาเบรกมันจะรู้สึก ตึงๆ ดีดๆ กระด้างหรือให้ความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีนัก มันไม่หนึบหนับว่างั้นเถอะ และโช๊คที่ OCCAM เลือกใช้มาใส่เฟรมตัวเองก็คือ 2013 Fox Float RP23

Orbea Occam Hydro 29 อลูมิเนียม 2013

เฟรม Orbea Occam 29 Hydroมั่นใจได้ แข็งแกร่ง และทนทาน

นอกจากนั้น ก็เป็นการพูดถึงการออกแบบความยาวของท่อ องศาของท่อ ที่จะได้รับการทดสอบมาแล้วนับไม่ถ้วน Orbea Occam 29 Hydro ยังมีให้คุณเลือกได้ด้วยว่าจะใช้ โช๊คอัพหน้าขนาดไหน 100 mm หรือ 120mm มีหลายไซส์หลายขนาดให้คุณเลือกตามต้องการ ตั้งแต่เล็ก ไปหา ใหญ่กันเลยทีเดียว นอกจากนี้ พวกเขายังเล็งเห็นความปลอดภัย และความเรียบร้อยในการเก็บสายเบรก ด้านบนท่อล่างจะมีไกด์สำหรับใส่สายเกียร์ด้วย และรับประกันการผิดพลาดอันเนื่องมาจากการผลิต หากคุณเอาไปปรับ ไปแต่งเพิ่ม อาจจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการประกันนี้

สรุปว่า นี้เป็นเฟรมที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี มีหลายขนาดให้เลือกตามความต้องการ ราคาก็จะแตกต่างกันไปตามขนาดด้วยนะครับ ประสิทธิภาพผมคิดว่า มันเยี่ยมมากนะ อ่านดูจากเวบไซต์ของผู้ผลิตแล้วเค้าตั้งใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเค้ามาก และมีการออกแบบที่ทันสมัย มีการทดสอบจากสถานที่จริง สภาพการใช้งานจริงๆด้วย แล้วที่มันมีราคาแพงก็เพราะเค้าออกแบบมาเพื่อใช้ในการแข่งขันครับ ดังนั้นจึงมั่นใจในประสิทธิภาพได้ครับ

ราคาของ Orbea Occam 29 Hydro อยู่ที่ $1990 หรือประมาณ 60,000 กว่า บาทขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนครับ แต่ว่าไม่ใช่เค้าจะขายเฉพาะเฟรมอย่างเดียวนะครับ เค้ายังมีสเปคให้ลูกค้าสั่งประกอบได้ มีหลายรายการตามแต่ลูกค้าจะเลือกใช้ เมื่อได้ดูรายละเอียดเสือภูเขาแต่ละคันแล้ว ทำให้ผมเกิดกิเลสอย่างมากเลย มันสวยงามมากครับ แต่ราคาคงจะอยู่เกินฝันสำหรับนักปั่นเพื่อสุขภาพอย่างผมครับ ในรุ่นนี้จะมี 2 รูปแบบคือ รุ่นที่โชว์ข้างล่างนี้ล่ะครับ

ORBEA OCCAM 29 H50 2013 Black Side
เฟรมเสือภูเขา Orbea Occam 29 Hydro สำหรับรถแข่ง
ORBEA Occam 29 S10 2013

OCCAM 29 S10 2013 Carbon Red Side

บทความหน้าเป็นของ Gary Fisher ที่ออกแบบเสือภูเขารุ่นใหม่ให้กับ Trek

โฆษณา advertise

วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การเลือกซื้อจักรยานเสือภูเขาสำหรับผู้หญิง

โฆษณา

ทำไมจะต้องซื้อเสือภูเขาสำหรับผู้หญิง?


คำตอบคือ ความแตกต่างกันทางสรีระ โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้หญิงจะตัวเตี้ยกว่า, ช่วงแขนสั้นกว่า, มือเล็กกว่า, สะโพกกว้างกว่า, และช่วงไหลแคบกว่าผู้ชาย ความแตกต่างกันทางสรีระเหล่านี้ ค่อนข้างจะเป็นอุปสรรคที่สำคัญสำหรับผู้หญิงในการ เลือกและปรับแต่งจักรยานให้ลงตัว ทำให้ผู้หญิงหลายคนไม่สามารถใช้จักรยานที่มีขายในท้อง ตลาดได้อย่างสบายนัก

แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้มีบริษัทผู้ผลิตจักรยานหลายยี่ห้อได้เอาใจผู้หญิงมากขึ้น เช่น Trekได้ผลิตจักรยานในรุ่นWSD(Woman's Specific Design), BMC Velvet VL01 Womens Mountain โดยออกแบบ รถให้มีลักษณะสอดคล้องกับสรีระของผู้หญิงมากที่สุด

ขนาดไซส์รถจักรยานเสือภูเขาที่เหมาะสมกับผู้หญิง คือ ไซส์ 13,14,15,16 หรือไซส์ XS, S หรือวัดจากความสูงครับ เช่น ไซส์ 13-14 จะเหมาะกับผู้หญิงที่สูง 148-158 ซม, ไซส์ 15-16 จะเหมาะกับผู้หญิงที่สูงระหว่าง 158-168 ดังนั้น หากผู้หญิงคนไหนที่สูง 168-178 ก็จะใช้จักรยานไซส์ 17-18 หรือไซส์ M แต่ผมแนะนำแค่ไซส์ 13 ถึง 16 เพราะสรุปจากความสูงของผู้หญิงไทย ที่ส่วนใหญ่มีความสูงไม่เกิน 165 ครับ
BMC Velvet VL01 Womens Mountain

ส่วนรถที่ออกแบบมาสำหรับผู้หญิงนั้น หรืออาจจะมีการปรับปรุงภายหลังก็ได้ครับ ส่วนใหญ่จะนำมาปรับให้สั้นลงกว่าเดิม คือ
  • ท่อบนสั้น มุมท่อคอมีความลาดเอียงมากขึ้น (มิติและองศาของเฟรม)
  • คอจะสั้นและเชิด ร่วมกับเพิ่มความยาวของท่อคอ ( เพื่อเพิ่มความสูงของแฮนด์ ) ทั้งนี้เพื่อเป็นการชดเชยช่วงแขนที่สั้น ทำให้ผู้หญิงสามารถเอื้อมจับแฮนด์ได้สะดวกขึ้น 
  • มุมท่อนั่งที่ชันขึ้น ทำให้การถีบบันไดสะดวกขึ้น 
  • ทำปลอกแฮนด์บาง เพื่อให้สามารถกำได้สะดวก 
  • ลดความกว้างของแฮนด์ลงมาเพื่อรับกับช่วงไหล่ที่แคบ 
  • ให้เบาะที่กว้างและนุ่มเพื่อสะโพกที่กว้าง เป็นต้น

จักรยานเสือภูเขาไซต์เล็กสำหรับผู้หญิง ในปี 2013 (ไซส์ 13-14)


Jamis Trail X2 เสือภูเขาสำหรับผู้หญิง
Jamis Trail X2

  • เฟรม : อลูมิเนียม 6061 aluminum main tubes, over-sized seat tube
  • โช๊คหน้า : RST Gila-T, alloy crown & lowers, MCU/coil spring ช่วงยุบ 100 มม. 
  • ถ้วยคอ : VP threadless, 1 1/8”
  • ล้อ : Alex TD25 double-wall disc-specific rims 
  • ยาง : Jamis TX, 26 x 1.95”
  • ตีนผี : Shimano Acera M360 rear and M190 34.9 mm
  • มือเกียร์ : Shimano Acera ST-EF51, 8-speed
  • โซ่ : KMC HG40 
  • เฟืองหลัง : Shimano HG30, 8-speed, 11-32
  • ชุดจานหน้า : SR Suntour XCC-T102 alloy crank arms, 42/34/24 rings,
  • กระโหลก : Set Sealed cartridge, 68 x 122.5mm
  • บันได : ATB platform, hi-impact resin cage & body
  • เบรค : Tektro mechanical disc brakes with 6" rotors and Shi-mano levers
  • แฮนด์ : Jamis XC riser, 6˚ sweep x 13mm rise x 620mm
  • คอแฮนด์ : Jamis XC alloy threadless,
  • มือจับ : Kraton for trigger-shift
  • หลักอาน : Jamis OS alloy micro-adjust, 31.6 x 350mm with alloy QR clamp
  • อาน : Jamis ATB Sport with pressure relief channel, SL cover, 
  • ขนาด : 13”, 15”, 17”, 19”
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 11,250.บาท

jamis-trail-x1-femme-2013-womens-mountain-bike
Jamis Trail X1
รายการละเอียด

  • เฟรม อลูมิเนียม 6061แบบ over-sized seat tube, 
  • โช๊คหน้า : RST Gila-T,ช่วงยุบ 80 มม.
  • ถ้วยคอ : VP threadless, sealed, 1 1/8” 
  • ล้อ : Alex C1000 alloy rims, 36H, 
  • ยาง : Jamis TX, 26 x 1.95”
  • ตีนผี : Shimano Tourney TX-55 rear and TX51 34.9mm top pull front 
  • มือเกียร์ : Shimano Acera ST-EF51, 7-speed
  • โซ่ : KMC Z51 
  • เฟืองหลัง : Shimano TZ31, 7-speed, 14-34
  • ชุดจานหน้า : Forged alloy crank, 42/34/24 steel rings, 170mm
  • กระโหลก : BB Set Sealed cartridge, 68 x 122.5mm
  • บันได : ATB platform, hi-impact resin cage & body
  • ชุดเบรค : Alloy linear pull type with Shimano alloy levers
  • แฮนด์ : Jamis XC riser, 6˚ sweep x 13mm rise x 620mm
  • คอแฮนด์ : Jamis XC threadless with alloy cap, 10˚ rise x 90mm 
  • มือจับ : Kraton for trigger-shift
  • หลักอาน : Jamis OS alloy micro-adjust, 31.6 x 350mm with alloy QR clamp
  • อาน : Jamis ATB Sport with pressure relief channel, SL cover, 
  • ขนาด : 13”, 15”, 17”, 19”
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,500 บาท
นี่คือเบาะนั่งสำหรับผู้หญิงครับ สังเกตุจะเห็นว่าขนาดของเบาะจะมีความกว้างมากกว่าเบาะของผู้ชายแล้วก็จะนุ่มกว่า นั่งสบายกว่าด้วยครับ


เบาะเสือภูเขาสำหรับผู้หญิง

โฆษณา advertise

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มือใหม่กับการเปลี่ยนเกียร์เสือภูเขา

โฆษณา

ความสับสนกับการเปลี่ยนเกียร์เสือภูเขาของเมือใหม่



การเริ่มต้นอะไรใหม่ๆมักจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเสมอ กว่าเราจะได้จักรยานเสือภูเขาสักคัน ต้องหาข้อมูลมากมาย ต้องเลือกขนาดของรถให้ตรงกับร่างกายของเรา วัตถุประสงค์ในการซื้อจักรยานคืออะไร เพื่อออกการกำลังกาย หรือการแข่งขัน เพราะว่าการเลือกซื้อจักรยานจะต้องแยกออกไปอีกว่า รถสำหรับอะไร? เพราะสำหรับออกกำลังกาย ก็จะมีราคาไม่แพงมาก ศักยภาพไม่สูงอย่างรถสำหรับแข่ง เมื่อได้จักรยานมาแล้ว ก็มาศึกษากันเรื่องการฝึกปั่นจักรยาน

มันดูเหมือนง่ายๆกับการบอกใครๆว่า ไปปั่นจักรยาน แต่สำหรับมือใหม่อย่างเราแล้วช่างเป็นอะไรที่สับสน และต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ผมเองซื้อจักรยานเสือภูเขาเพื่อต้องการออกกำลังกาย เอาแบบสบายๆไม่หักโหม ผมตั้งงบไว้ประมาณ 17,000 และมีรถในดวงใจไว้แล้ว แต่สำหรับมือใหม่อย่างผม เมื่อได้อ่านเรื่องเกียร์รถแล้ว ผมเริ่มจะสับสน และมีคำถามมากมาย การไปเลือกซื้อก็ไม่กล้าที่จะลองปั่น เพราะปั่นไม่เป็น กลัวไปทำจักรยานของเค้าพังอีก (ผมคิดว่ามือใหม่จะต้องมีความคิดแบบนี้เกือบทุกคน)

หลังจากการศึกษาหาความรู้มาพักใหญ่ ผมก็เริ่มจะพอรู้เรื่อง และเข้าใจมากขึ้น บางครั้งการอ่านหรือศึกษาจากทฤษฏีมากไป ขาดการลองปฏิบัติก็จะทำให้เกิดจินตนาการไปต่างๆนานา ดังนั้นเลิกสับสนในใจ ซื้อจักรยานและมาลองให้มันรู้เรื่องไปเลยครับ สุดท้ายมันไม่ได้ยากอะไรเลย ไม่ใช่อย่างที่เรากลัวเลย

มือใหม่จะลองใช้เกียร์อย่างไรในการปั่นเสือภูเขาครั้งแรก

ก่อนอื่นมือใหม่บางคนอาจจะสับสน กับคำว่า “เกียร์หนัก” กับ “เกียร์เบา” ผมขออธิบายแบบนี้ครับ

  • เกียร์หนักคือ เมื่อเราเข้าเกียร์แล้ว เราจะต้องออกแรงปั่นมากขึ้นกว่าปกติ ซึ่งจะเป็นเกียร์สูงๆครับ
  • เกียร์เบาคือ เมื่อเปลี่ยนเกียร์แล้ว ปั่นสบายขึ้น (ต้องเทียบกับความรู้สึกเอานะครับว่า หนัก กลาง เบา ของเราเป็นอย่างไร ลองฝึกไปเรื่อยๆจะรู้เอง)


จานหน้า ชุดเฟืองของเสือภูเขา
ชุดจานหน้า

การใช้เกียร์ด้านซ้ายมือ หรือ จานหน้า จะมี 3 เฟืองเท่านั้นครับ ไม่สับสน มีเล็ก กลาง ใหญ่


  • ใช้เฟืองใหญ่ ตอนลงเขา หรือทางลาดลง อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการต้องการความเร็วนะครับ แต่ถ้าเราใช้จานหน้าเป็นเฟืองใหญ่ตอนลงเขา มันจะเซฟขาของคุณจากความคมของยอดฟันใบจาน ซึ่งคมพอที่บาดขาคุณลงไปถึงกล้ามเนื้อได้
  • ตอนขึ้นเขา ใช้เฟืองกลางครับ แต่ดูแรงของเราก่อนนะครับว่า ไหวไหม ถ้าไม่ไหวจริง เปลี่ยนมาเป็นเฟืองเล็กครับ
  • ถ้าเป็นทางเรียบ ใช้เฟืองกลางหรือใหญ่ก็ได้ครับ ตามกำลังของเรา แต่จริงๆแล้ว เฟืองกลางเหมาะสุดแล้วครับ

จานหลังเสือภูเขา ชุดเฟืองเกียร์
ชุดจานหลัง

ตัวเลขของเกียร์ของเสือภูเขา (สำหรับด้านขวามือ หรือจานหลัง)


  • เฟืองเล็ก คือเกียร์สูง จะเป็นเกียร์ที่เราใช้ความเร็วครับ เช่น ทางเรียบ เปรียบกับรถยนต์เอาก็แล้วกันนะครับถ้าต้องการความเร็วก็ใช้เกียร์สูง สำหรับจักรยาน เกียร์สูง = เกียร์หนัก ต้องออกแรงปั่นมากขึ้นด้วยครับ
  • เฟืองใหญ่ คือ เกียร์ต่ำ จะใช้ตอนเราออกตัว หรือ ตอนปั่นขึ้นทางที่ลาดชัน หรือขึ้นเขา แล้วก็ตอนที่จอดรถไว้เฉยๆ จะต้องเข้าเกียร์ไว้ครับ ดังนั้นสรุปว่า เกียร์ต่ำ = เกียร์เบา จะใช้แรงน้อย

การเปลี่ยนเกียร์เสือภูเขา
รูปการปรับเกียร์เสือภูเขาที่ถูกต้องสำหรับมือใหม่

มือใหม่ควรใช้เกียร์อะไร? ในตอนฝึกครั้งแรก


  • ผมขอแนะนำว่า ให้คุณปรับเกียร์ข้างซ้ายไปที่เกียร์ 2 หรือ ที่เราๆเรียกกันว่า จานหน้า (เพราะ เกียร์ 1 เราไม่ค่อยจะรู้สึกมาก มันเบาไปครับ เริ่มที่2 จะรู้สึกดีกว่า) หรือให้ปรับใช้จานกลาง เป็นหลักเมื่อปั่นจักรยาน แล้วไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับมันอีกแล้วครับ (ในระยะที่ฝึกปั่นใหม่ๆนะครับ)
  • ส่วนการเปลี่ยนปรับเกียร์ ให้เราใช้เกียร์ขวามือในการปรับครับ ฝึกใหม่ๆผมแนะนำให้ปรับไปที่ เกียร์ 3 ครับ พอหลังจากนั้นลองปรับไปที่เกียร์ 4 ฝึกไปอย่างนี้ก่อนสักระยะ

หลังจากนี้ ถ้ากำลังของคุณอยู่ตัวแล้ว จะลองปรับไปที่เลข 5, 6,7 ตามแต่ใจของคุณต้องการ ให้ดูรูปข้างบนประกอบเลยครับ การปรับเกียร์ที่ถูกต้อง ส่วนรูปข้างล่างคือตัวอย่างการเบนแนวโซ่มากเกินไป

การเปลี่ยนเกียร์เสือภูเขา ที่ไม่ควรใช้
การเปลี่ยนเกียร์ที่ไม่ควร นอกจากการจอดรถไว้เฉยๆ

ข้อควรระวังในการเปลี่ยนเกียร์เสือภูเขาสำหรับมือใหม่


  • มือซ้ายนะครับ เราจะไม่ปรับจานหน้าไปเป็นจานเล็ก (เกียร์1) แล้วปรับจานหลัง ขวามือเราไปเป็น จานเล็ก (เกียร์9)
  • และเราจะไม่ปรับจานหน้า ไปเป็นจานใหญ่ (เกียร์ 3) พร้อมกับเปลี่ยนจานหลัง ไปเป็นเฟืองใหญ่ (เกียร์ 1)

เพราะการกระทำแบบนี้จะทำให้แนวโซ่เบนมากที่สุด จะส่งผลเสียต่อระบบเกียร์ ส่งผลให้โซ่ขาดได้ นอกจากนี้ตัวตีนผีเองจะถูกโซ่ดึงจนกาง ออกเกือบจะเป็นเส้นตรง ซึ่งถ้าความยาวของโซ่สั้นเกินไปกว่าที่ควรขาตีนผีอาจจะถูกบิดจนโก่งงอ

หวังว่าคุณผู้อ่านจะไม่งงนะครับ ถ้าไม่เข้าใจก็ลองปรับ หรือลองปั่นดูครับจะได้รู้และเข้าใจมากขึ้น ไม่ยากจนเกินไป และต้องใช้การฝึกฝนครับ แล้วจะสนุกมาก การปั่นจักรยานเสือภูเขาเป็นการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพ และได้กำไรในการพักผ่อนไปในตัวได้ครับ


โฆษณา advertise

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มือใหม่กับการปั่นจักรยานเสือภูเขา

โฆษณา

วิธีแก้เมื่อปั่นจักรยานเสือภูเขาแล้วเกิดการปวดเมื่อยตามร่างกาย

การปั่นจักรยานเสือภูเขา

ปั่นจักรยานเสือภูเขาแล้วรู้สึกปวดขา หรือเข่า

หากคุณเป็นมือใหม่ที่เพิ่งหัดปั่นจักรยานเสือภูเขา สิ่งที่คุณจะพบแน่นอนคือ อาการปวดขา หรือกล้ามเนื้อทุกส่วนบริเวณขา เช่น ต้นขา หรือ อาจจะเป็นน่อง หรือ หัวเข่า
สาเหตุนี้ไม่ได้เกิดมาจากคุณเลือกรถไม่ดี หรือไม่ตรงกับสัดส่วนร่างกายของคุณแต่อย่างใด แต่เกิดจากการปรับเซ็ทอุปกรณ์ต่างๆของรถยังไม่เข้ากันกับร่างกายของคุณ เช่น อานรถอาจจะสูงไป หรือ ต่ำไป, แฮนด์รถอาจจะกว้างไป หรือสั้นไป ทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบที่จะส่งผลต่อการปั่นจักรยานของคุณ
คำแนะนำ
ให้คุณปรับระดับของเบาะ หรือ อานรถใหม่ เป็นความเชื่อที่ผิดที่คุณจะคิดการปรับอานให้สูงจนเกินไปจะทำให้คุณมีวงสวิงในการปั่นมากขึ้น เพราะมันก่อให้เกิดแรงตึงที่เข่า เมื่อปั่นไปนานๆอาการปวดเหล่านี้จะแสดงอาการ การปรับอานจะลองเพิ่มสัก 0.5 เซน แล้วลองปั่นดูครับว่าเหมาะหรือยัง

การปรับอานเมื่อสูงเกินไป ขาจะเหยียดมากขึ้น ทำให้ผู้ปั่นต้องออกแรงมากขึ้น, การปรับอานต่ำเกินไป ทำให้ขณะที่ปั่นจักรยานจะรู้สึกเมื่อยกว่าที่ควร เพราะการเหยียดขาไม่พอดี

หลีกเลี่ยงการใช้เกียร์หนัก การออกแรงฝืนแรงต้านของเกียร์มากเกินไป ก็ไม่ผลดีต่อการปั่นจักรยาน(จานหน้า 2 จานหลัง 3,4 )

ดังนั้นมือใหม่จึงควรจะเน้นการปั่นแบบสบาย เพื่อให้ร่างกายปรับสมดุลให้เข้ากับรถได้ดีที่สุด คล้ายกับผ่านช่วงรันอินไปแล้ว คุณสามารถอัดได้เต็มที่อย่างที่ใจคุณค้องการ แต่ก่อนปั่นจักรยานทุกครั้งไม่ควรจะลืมการวอร์มอัพร่างกายนะครับ

ปั่นจักรยานเสือภูเขาแล้วรู้สึกปวดหลัง

ผมก็เคยประสบกับปัญหานี้ครับคิดว่าทุกคนคงจะเคยพบ และได้มีผู้มีประสบการณ์แนะนำไว้แบบนี้ครับ คือปรับระยะห่างของอานกับคออานครับ โดยระยะห่างของเบาะกับอานนั้นจะเท่ากับระยะท่อนแขนที่กำมือพอดี งงหรือเปล่า คือให้เรากำมือแล้วไปวัดระยะ โดยให้ข้อศอกชนกับปลายอาน แล้วสันนิ้วชนกับคอ ก็จะได้ระยะที่พอดี ผมทำแล้วหายเลย แถมไม่เมื่อยก้นด้วย เพราะว่าก้นเราจะนั่งได้เต็มพอดี แถมเบาะยังนวดก้นสบายอีกต่างหาก ที่เหลือก็ไปปรับระยะสูง-ต่ำ ของแฮนด์อีกที

นอกจากนี้ เบาะไม่ควรจะปรับให้เงย หรือไปหน้า ไปหลังมากเกินไปครับ ควรจะให้ขนานกับพื้นดีที่สุด ตามสูตรแล้ว เบาะควรจะสูงกว่าแฮนด์ประมาณ 2 นิ้ว (อาจจไม่เป๊ะขนาดนี้ก็ได้นะครับ แต่เบาะควรจะสูงกว่า ว่างั้น) เพราะถ้าเบาะต่ำกว่าแฮนด์ จะเจอปัญหาปวดหลังเวลาปั่นเสือภูเขาสุดรักก็ได้ครับ

ปั่นจักรยานเสือภูเขาแล้วรู้สึกปวดหลัง

อุปกรณ์สำคัญสำหรับมือใหม่ที่ควรจะซื้อ(ไม่ซื้อไม่ได้)

· กางเกงสำหรับปั่นจักรยาน-ช่วยลดอาการเจ็บก้นได้
· ถุงมือ-ช่วยลดอาการมือชาได้ระดับหนึ่ง ช่วยลดอาการบาดเจ็บในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ(ใช้มือยันพื้นขณะล้ม)
· หมวกกันกระแทก-สำคัญมากเพราะช่วยป้องกันศีรษะกระแทกจากการเกิดอุบัติเหตุได้
· กระติกน้ำ-เมื่อปั่นเกิน 30 นาทีไม่ควรให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอาการตะคริว
· ไฟหน้า-ไฟหลัง
· วาสลิน-ใช้ทาเพื่อลดการเสียดสีของต้นขา กับเบาะ ครั้งแรกจะเกิดการเสียดสีมากที่สุด และอาจจะทำให้คุณปั่นกลับบ้านไม่ได้

เมื่อคุณอ่านจบอาจจะคิดว่า การปั่นจักรยานเสือภูเขาเป็นอะไรที่ยุ่งยาก หรือดูเหมือนจะส่งผลเสียกับสุขภาพในระยะยาว อันนี้ขอบอกก่อนเลยครับว่า หากเราขับขี่อย่างพอเหมาะสม ไม่ฝืนร่างกายจนเกินไป และใช้พาหนะได้อย่างถูกต้อง การปั่นจักรยานจะนำโลกอีกใบหนึ่งมาสู่คุณให้ลืมโลกเก่าๆไปเลยล่ะครับ เพราะมันเพลินจริงๆ ยิ่งคุณปั่นได้เก่งขึ้น คุณเพลินกับการปั่นจักรยานไปเลย วันหนึ่งๆคุณอาจจะปั่นได้อย่างต่ำวันละ 50 กิโลเมตรเลยก็ว่า และยิ่งคุณเพลินเท่าไหร่ มันก็ส่งผลกับร่างกายของคุณเช่นกันครับ ดังนั้นจงออกกำลังกายอย่างพอเพียง และเพียงพอครับ แล้วร่างกายของเราจะแข็งแรง

รถจักรยานเสือภูเขาสวยๆ

โฆษณา advertise

วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Trek Remedy 9.9 สวยบาดตา ราคาบาดใจ Nice and expensive MTB

โฆษณา

รีวิว TREK Remedy 9.9 จักรยานสวยสะดุดตา แต่ราคาบาดใจมาก.

Remedy 9 เสือภูเขาราคาแพง

Review TREK Remedy 9.9 เสือภูเขาราคาสองแสนกว่าบาท!

อย่างที่ผมได้กล่าวไว้ในรีวิว TREK Remedy 8 คราวที่แล้ว, ว่าจะหาโอกาสหาข้อมูลสำหรับตัวเจ้า Remedy 9.9 มาให้ผู้อ่านที่ชอบจักรยานเสือภูเขาได้ยลโฉมกัน ราคาค่าตัวเสือภูเขาตัวนี้ ขายในเวบของเทรคเอง ราคา $8,929.99 คิดเป็นเงินไทยก็สนนราคาประมาณ 276,826.69 บาท ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดของ Trek เอง ปีนี้มีรุ่น Remedy 8, Remedy 9, Remedy 9.8 และ Remedy 9.9

remedy 9.9 Fox FIT DRCV_detail2

Fox FIT DRCV (Dual Rate Control Valve) fork w/RLC เป็นเทคโนโลยีของ Trek ซึ่งเป็นการทำช็อคอัพแบบ 2ท่อคู่สำหรับช็อคอัพด้านหลัง แล้วมีวาวล์ไว้ปรับความดันอากาศของช็อคอัพ ดังนั้นคุณสามารถจะปรับความหนึบของช็อคอัพทั้งด้านหน้าและหลังได้ตามความต้องการของคุณ หรือตามสภาพแวดล้อมที่ใช้มันได้ ระบบนี้ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ Trek ได้รับความไว้วางใจจากนักแข่งทั่วโลกในเรื่องบาลานซ์ของการขับขี่

เฟรม OCLV (optimum compaction, low void) เป็นแบบคาร์บอนที่เบา และแข็งแรง คาร์บอน OCLV เมาน์เทนมีการทดสอบการทนต่อการปะทะ 150-กรัม การชนหินที่ 38 mph ดังนั้นมันจึงสามารถรับน้ำหนักได้ดี ไปได้ทุกที่ทุกทางที่คุณอยากจะไป

Review TREK Remedy 9.9 เสือภูเขาราคาสองแสนกว่าบาท!

ระบบที่เป็นหัวใจการทำงานของเสือภูเขา TREK Remedy 9.9 นี้ ก็คือระบบ Trek’s Full Floater suspension กับ Trek’s ABP (active braking pivot) system. Full Floater suspension ก็คือการคำนวณการเคลื่อนที่ หรือระยะห่างจาก ช้อคเมาท์ (shock mounts) ด้านบน กับ ช็อคเมาท์กับส่วนที่ติดกับ chainstay หรือ บริเวณด้านล่างของรถซึงรับแรงกระแทกทั้งหมด ระบบนี้จะช่วยให้วิศวกรของ Trek คำนวณระยะช่วงชักของช็อคอัพได้ดี และแม่นยำมากขึ้น จึงกล่าวได้ว่า ระบบนี้เป็นระบบที่สร้างชื่อเสียงของ Trek เลยทีเดียว

ระบบ ABP ถ้าเป็นรถยนต์คงจะเรียก ABS แน่นอน เป็นระบบเบรคของ Trek ที่ช่วยให้การเบรคทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากการกระแทกของช็อคอัพ หรือล้อหน้า-หลัง สมรรถนะการปีนเขานั้นเยี่ยมยอดมาก ระยะช่วงชักของช็อคอัพอยู่ 150 มม. แต่สามารถได้จริงถึง 120 มม. ก็เพียงพอแล้ว

Review TREK Remedy 9.9 เสือภูเขาราคาแพง
รายละเอียด
  • Colors: Onyx Carbon
  • Frame: OCLV Mountain Carbon main frame, seatstay & chainstay, Carbon Armor, ABP Convert, Full Floater, E2 tapered head tube, front derailleur internal cable routing, stealth seatpost routing, magnesium EVO Link, Mino Link, replaceable derailleur hanger, 150mm travel
  • Front suspension: Fox 32 Float FIT RLC, Trek DRCV air spring, Kashima coat, compression, lockout, rebound, E2 tapered steerer, 15QR thru axle, 150mm travel, tuned by Trek in California
  • Rear suspension: Fox Float RP-3 w/DRCV, Kashima coat, Boost Valve, 3-position Climb-Ride-Descend ProPedal, rebound; 7.75x2.25", tuned by Trek in California
  • Sizes: 15.5, 17.5, 18.5, 19.5, 21.5"
  • Wheels: DT Swiss XM 1550 Tricon, 15mm front hub, 142x12mm rear hub; 24-hole, center lock, tubeless rims
  • Tires: Bontrager XR4 Team, 26x2.35"
  • Shifters: SRAM XX, 10 speed
  • Front derailleur: SRAM X0, direct mount
  • Crank: SRAM XX, 39/26
  • Cassette: SRAM XX 11-36, 10 speed
new2012-trek-remedy-99-bike2012 เสือภูเขาสวยๆ 
  • Saddle: Bontrager Evoke RXL
  • Seatpost: RockShox Reverb Stealth, 31.6mm, zero offset
  • Handlebar: Bontrager Race X Lite Carbon Low Riser, 31.8mm, 15mm rise, 9 degree sweep
  • Headset: Cane Creek IS3, E2
  • Brakeset: Avid XX hydraulic disc brakes
  • Grips: Bontrager Rhythm, dual lock-on
  • Extras: Trek fork & shock sag meter, Bontrager shock pump
โดยรวมแล้ว,  TREK Remedy 9.9 เป็นจักรยานที่ปีนขึ้นได้ดีในทุกเส้นทาง แต่ละเส้นทาง แต่ละประเภทก็ต้องอาศัยเทคนิคของนักปั่นด้วย และด้วยสมรรถภาพที่ดีของรถจักรยาน จะช่วยเสริมให้ทุกการขับขี่เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทำเวลาได้ดีในเวลาแข่งขันอีกด้วย




โฆษณา advertise

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รีวิวจักรยาน สุดล้ำเทคโนโลยี: Trek Remedy 8

โฆษณา

Trek Remedy 8 Review: จักรยานสุดไฮเทค สวยโดนใจ.

Trek Remedy 8 MTB จักรยานสุดไฮเทค สวยโดนใจ
ถึงแม้ว่าในขณะที่เราให้ความสนใจและนำเสนอการรีวิว Trek Remedy 8 อยู่นี้ ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า ตอนนี้ทาง Trek ก็ได้ออกตัว Remedy 9 ด้วยเช่นกัน ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันพอสมควร โดยตัวที่เรากำลังเขียนถึงนี้ ราคาค่าตัวราวๆ 77,500 บาท($2500) ส่วน Remedy 9 ค่าตัวจะแพงกว่าคือ 99,200 บาท ($3200) หากมีโอกาสคงได้นำมาเขียนให้แฟน Trek ชาวไทยได้อ่านกัน

ส่วนประกอบของ Trek Remedy 8.

  • Frame: Alpha Platinum Aluminium w/ABP Convert, Full Floater, E2 tapered head tube, front derailleur internal cable routing, stealth-routing ready, magnesium EVO Link, Mino Link, replaceable derailleur hanger, 150mm travel
  • Rear Shock: Fox Performance Series Float RP-2 w/DRCV, ProPedal, rebound; 7.75x2.25", tuned by Trek in California
  • Fork: Fox 32 Float RL, Trek DRCV air spring, lockout, rebound, E2 tapered steerer, 15QR thru axle, 150mm travel, tuned by Trek in California
  • Front Derailleur: Shimano SLX, direct mount
  • Rear Derailleur: Shimano Deore XT M780 Shadow
  • Number of Gears: 30
  • Shifters: Shimano SLX M660-10, 10 speed
  • Chainset: Shimano M552, 42/32/24
  • Chainrings: 42/32/24 Teeth
  • Cassette: Shimano HG62-10 11-36, 10 speed
  • Front Brake: Shimano SLX M666 hydraulic disc brakes
  • Rear Brake: Shimano SLX M666 hydraulic disc brakes
  • Brake Levers: Shimano SLX M666 hydraulic disc brakes
  • Handlebars: Bontrager Low Riser, 31.8mm, 15mm rise, 9 degree sweep
  • Stem: Bontrager Rhythm Pro, 31.8mm
  • Headset: FSA NO.57E, E2, ACB sealed bearings
  • Grips: Bontrager Rhythm, dual lock-on
  • Rims: Bontrager Duster Disc 32-hole rims, Tubeless Ready
  • Front Hub: Bontrager 15mm alloy front hub
  • Rear Hub: Shimano M525 alloy rear hub
  • Front Tyre: Bontrager XR4 Expert, 26x2.35"
  • Rear Tyre: Bontrager XR4 Expert, 26x2.35"
  • Saddle: Bontrager Evoke 2, Chromoly rails
  • Seatpost: Bontrager Rhythm Elite, 31.6mm, zero offset
  • Extra Features: Trek fork & shock sag meter, Bontrager shock pump
  • Weight: 14.2kg (31.24lbs) approx for the 17.5 Inch size, with pedals (prebuild).
Trek Remedy 8 MTB รีวิว

Trek Remedy 8 เป็นจักรยานเสือภูเขาชนิดที่เรียกว่า Full-Floater suspension หรือ ช็อคอัพแบบเต็มตัวทั้งหน้าและหลัง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่ Trek ภาคภูมิใจ คือ Active Braking Pivot (APB) technology. ซึ่งตัวช็อคอัพจะเป็นของ Fox ทั้งหน้า-หลังเป็นขนาด 6 นิ้ว มีคุณสมบัติพิเศษคือ จะมีมิเตอร์ให้ปรับระดับของช็อคอัพได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ หรือเรียกอีกแง่หนึ่งก็คือ ปรับระดับความดันอากาศในตัวช็อคอัพนั้นเอง(Dual-Rate Control Valve) ในส่วนระบบเบรคจะเป็นของ Shimano ซึ่งเป็นแบบดิสเบรค เชื่อถือได้แม้ในความเร็วสูง
เฟรมทำจาก Alpha Platinum ให้ความแข็งแกร่งทนทาน และมีน้ำหนักเบา, ระบบเกียร์ ก็ยังคงเป็นของ Shimano เช่นคย

ผลการขับขี่: Trek Remedy 8 ให้ความรู้สึกในการขับขี่ได้ดีและมีประสิทธิภาพมาก เรียกได้ว่า สบายในการขับขี่ มันทำได้ดีได้ทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะปีนเขา หรือปั่นในทางธรรมดา ระบบช็อคอัพมีความสมดุลกันได้ดี ระบบเบรค APB ที่ช่วยให้ผู้ขี่ไม่ต้องออกแรงเบรคมาก แต่การเบรคมีประสิทธิภาพที่ดีและมั่นใจได้ นอกจากนี้ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ดีมากขึ้น และทำความเร็วได้ดี
สรุปแล้ว มันเป็นจักรยานเสือภูเขาที่มีประสิทธิภาพดี อุปกรณ์ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นทียอมรับสำหรับนักปั่นว่า มันสุดยอดแล้ว คงจะไม่มีข้อเสียประการใดสำหรับจักรยานราคาเกือบๆแสนบาทแบบนี้

Trek Remedy 8 รีวิวอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Trek.com

โฆษณา advertise

วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เทคนิคการเปลี่ยนเกียร์อย่างมีประสิทธิภาพ(How to Effectively Shift Your Bike's Gears)

โฆษณา

การเปลี่ยนเกียร์อย่างมีประสิทธิภาพควรทำอย่างไร?

การขับขี่จักรยานเสือภูเขาสำหรับผู้เริ่มต้น

ไม่เพียงเฉพาะผู้เริ่มต้น แต่ผู้ที่ปั่นจักรยาน MTB มานาน บางครั้งก็ยังมีการเปลี่ยนเกียร์ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งทำให้ชุดเกียร์สึกหรอเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

เทคนิคพื้นฐานของการเปลี่ยนเกียร์ที่ถูกต้อง

ปัจจัยพื้นฐาน: วัตถุประสงค์หลักของเกียร์คือ การทำให้จักรยานง่ายต่อการขึ้นเขา หรือไต่ไปบนที่สูง หรือแม้กระทั่งง่ายต่อการปั่นของคุณ สิ่งสำคัญที่ควรจะทำก็คือ รักษาระดับในการปั่นหรือเปลี่ยนระดับไม่ตามสภาพอากาศ หรือบรรยากาศรอบๆข้างของคุณ
ขั้นตอนแรก: คุณควรเปลี่ยนเกียร์ขณะที่คุณกำลังปั่นจักรยาน ขั้นตอนนี้จะเหมือนเป็นสั่งให้โซ่เคลื่อนที่ไปยัง สับจานหน้า (Front derailleur) หรือเฟื่องหน้าไปเฟื่องหลัง (Rear derailleur) ดังนั้นมันจึงเป็นวิธีที่ผิดหากคุณเปลี่ยนเกียร์ในขณะที่รถจักรยานยังไม่ออกตัว และมันจะส่งผลทำให้สายเกียร์ยืดทันที่ที่คุณเปลี่ยนเกียร์เมื่อคุณจะออกสตาร์ทอีกครั้ง

กลับมาสู่เทคนิคการเปลี่ยนเกียร์

1. เปลี่ยนเกียร์ในขณะจ้วงเร็วๆ หรือก้าวเร็วจะง่ายกว่าขณะที่คุณปั่นช้าๆ เพราะจะทำให้ชุดเกียร์หนักขึ้น คุณจะใช้กำลังกายมากขึ้นในการปั่นจักรยาน เทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อของคุณ และสามารถปั่นจักรยานได้เป็นระยะเวลานานขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถจะเร่งความเร็ว หรือกระโดดได้ดี
2. สิ่งสำคัญที่สุดคือ แบ่งเบาลดความดันให้กับคันเหยียบจักรยาน การลดน้ำหนักความดันบนคันเหยียบจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้นขณะที่เปลี่ยนเกียร์ หรือพยายามลดเสียงรบกวนขณะที่คุณเปลี่ยนเกียร์ให้ลดน้อยลง สิ่งเหล่านี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานให้แก่ระบบเกียร์ของคุณ
3. ใช้เกียร์ต่ำที่มีหมายเลขที่อยู่ทางซ้ายกับเกียร์ของคุณต่ำเลขที่อยู่ด้านขวา และใช้หมายเลขที่สูงให้ตรงกับหมายเลขที่สูงอีกข้างหนึ่ง ดังนั้นหากคุณอยู่ในจำนวนเกียร์หนึ่งอยู่ทางซ้ายมือคุณควรใช้เกียร์ที่มีหมายเลขหนึ่งถึงสี่ด้านขวา ในทำนองเดียวกันถ้าคุณอยู่ในเกียร์สามที่อยู่ทางซ้าย คุณควรใช้กับตัวเลขเกียร์ห้าขึ้นไปทางด้านขวา
เคล็ดลับนี้จะทำอย่างไรกับสายโซ่ แม้ว่าจะไม่เกิดความเสียหายจริง ซึ่งเป็นการทำโดยใช้เกียร์ผิดร่วมกัน แต่คุณก็ควรจะหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ทำให้เกิดเสียงหรือการสั่นกับระบบเกียร์อย่างที่คุณได้ยิน จำนวนของเกียร์ที่มากับจักรยานของวันนี้ คุณสามารถหลีกเลี่ยง "การผสมเกียร์สูงและต่ำของคุณ" และยังพบว่า สะดวกกับการเปลี่ยนเกียร์ในขณะที่ปั่นจักรยาน
หลีกเลี่ยงการทำงานเฟืองขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้ากับเฟืองขนาดใหญ่ด้านหลัง ทำนองเดียวกันหลีกเลี่ยงการใช้เฟืองเล็กด้านหน้ากับเฟืองเล็กด้านหลัง คือ ไม่ควรใช้โซ่ให้บิดกันในเฟืองหน้าและหลัง
4. อย่าลืมเปลี่ยนกลับไปเป็นเกียร์ต่ำก่อนที่จะหยุดเพื่อที่คุณจะอยู่ในเกียร์ได้ง่ายสำหรับการเริ่มต้นออกมาอีกครั้ง
เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณเปลี่ยนเกียร์ได้ง่ายขึ้น เช่นการเปลี่ยนเกียร์ไปเป็นเกียร์ต่ำ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องกำลังในการปั่นมากขึ้น เช่นขึ้นเขาและเปลี่ยนเกียร์ไปเป็นเกียร์สูง การเปลี่ยนเกียร์นี้จะช่วยให้คุณขึ้นเขาได้ง่ายขึ้นและช่วยให้คุณปั่นได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
อ่านเพิ่มเติม: มือใหม่กับการเปลี่ยนเกียร์เสือภูเขา

แปลจาก: http://www.intownbicycles.com


โฆษณา

วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

แนะนำจักรยานเสือภูเขาสวยๆ-GMC Topkick Dual-Suspension Mountain Bike

โฆษณา
GMC Topkick Dual-Suspension Mountain Bike
จักรยานจาก GMC Topkick Dual-Suspension Mountain Bike, เต็มรูปแบบกับจักรยานแบบ full-suspension เฟรมทำจากอลูมิเนียมพิเศษแข็งแรง และรับน้ำหนักได้ดีประมาณ 294.83 ก.ก จักรยานรุ่นนี้เหมาะกับการขี่ในเมืองและออฟโรด เป็นการออกแบบที่แปลกตา เพราะเอาช็อคอัพ มาไว้ที่ใต้เฟรม การรับแรงสะเทือนน่าจะเป็นการช่วงกลาง และถ่ายเทไปที่ช็อคอัพ
ตัวเฟรมมีขนาด 26 นิ้ว 21 สปีด เป็นเกียร์จาก Shimano ซึ่งรายละเอียดของรถจักรยานมีดังต่อไปนี้
  • Frame: 26-inch full-suspension aluminum MTB frame
  • Fork: Zoom CH-386 suspension fork, 65mm travel
  • Shocks: Kind Shock, adjustable to 650 pounds
  • Chain: KMC Z51
  • Crankset: Alloy ISA 335P, 28/38/48, L170mm
  • Front derailleur: Falcon MF 31 T
  • Rear derailleur: Shimano RD-TZ30GS SIS, 7 speed
  • Shifters: Microshift TS-50 ADII index L3/R7
  • Brake levers: GP 30 AP aluminum
  • Brakes: LCHI DSK-320 disc brakes, 160mm
  • Rims: Alloy black 26 x 1.5 inches
  • Tires: Kenda black with yellow band 700 x 25C
  • Stem: A-head TDS63K-8, EXT: 100mm, 15D
  • Handlebar: HL-MTB 153, W: 600mm, R: 30mm
  • Saddle: Velo, black padded
  • Seat post: Alloy micro-adjust 27.2 x 300mm with quick-release
สำหรับมือใหม่อาจจะอยากรู้ว่าการปั่นจักรยานที่มีเกียร์ แบบเสือภูเขาเค้ามีวิธีการปั่นกันอย่างไร ไม่ยากเลย อ่านบทความต่อไปนี้ ==> เทคนิคการเปลี่ยนเกียร์จักรยานเสือภูเขาอย่างมีประสิทธิภาพ

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

วิธีการเลือกซื้อรถจักรยานเสือภูเขา

โฆษณา

การเลือกซื้อรถจักรยานเสือภูเขาสำหรับมือใหม่

วิธีการเลือกซื้อรถจักรยานเสือภูเขา

สำหรับมือใหม่ที่สนใจจักรยานเสือภูเขาคงจะไม่เข้าใจหรือหาข้อมูลในการช่วยตัดสินใจในการซื้อจักรยานคันแรกไม่ค่อยได้. บทความแรกของเราจะนำเสนอคู่มือในการเลือกซื้อเสือภูเขาเท่ห์ๆสักคัน ซึ่งในบทความจะประกอบไปด้วย หลักการเลือกซื้อ และอุปกรณ์ที่มือใหม่ควรจะทราบ เริ่มกันเลยดีกว่า

1. กำหนดงบประมาณที่แน่ชัด.
คุณควรจะกำหนดงบประมาณในการซื้อรถจักรยานเสือภูเขาไว้ในใจ เพื่อที่คุณจะได้ควบคุมค่าใช้จ่ายบวกลบเวลาที่เข้าไปเลือกซื้อจริงๆ ทั้งหมดนี้รวมถึงราคาอุปกรณ์ต่างๆที่อาจจะต้องซื้อเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของคุณ ควรเลือกซื้อกับร้านค้าที่ใกล้บ้านของคุณก่อน ก่อนที่เลือกซื้อกับร้านค้าออนไลน์หรือสโตร์ใหญ่ๆทั่วไป เพราะว่าร้านค้าเหล่านี้จะมีส่วนลดหรือราคาที่ถูกกว่า อีกประการหนึ่งคุณสามารถต่อรองราคาได้ และสามารถสั่งเพิ่มเติมหรืออัพเกรด เปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ได้ หากเลือกซื้อจากร้านสโตร์ เช่น ห้างสรรรพสินค้า คุณจะไม่สามารถเลือกต่อรองราคาที่สมเหตุสมผลได้เลย

2. เลือกสไตล์ที่คุณต้องการ
จักรยานเสือภูเขาถูกออกแบบบมาเพื่อใช้งานหลายชนิดแตกต่างกัน คุณจะต้องค้นหาสไตล์ไหน การขับขี่แบบไหนที่ถูกใจคุณมากที่สุด เช่น แบบทางเรียบ (smooth trail riding), ครอส-โรด (Cross-road), แบบวิบาก ขึ้น-ลงเขา (all mountain cruising) เพราะว่าราคาของจักรยานจะแตกต่างไปตามประเภทการใช้งาน และเพือความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

3. ระบบช็อค-อัพ แบบเต็มรูปแบบ (Full suspension) หรือว่า แค่ช็อคหลัง (Hardtail)
เราแนะนำว่า ให้คุณเลือกซื้อแบบรูปแบบ คือมีช็อคอัพ ทั้งด้านหน้า-หลัง ถ้าหากว่าคุณมีงบประมาณเพียงพอที่จะซื้อได้ มันช่วยให้คุณบังคับรถได้ง่ายและสบายกว่า แบบ ช็อคด้านหลัง เพืยงอย่างเดียว ระบบช็อคเดียว (Hardtail) อาจจะมีน้ำหนักเบา ขับขี่ได้คล่อง แต่ว่าในความคิดของเรามันก็ยังสู้แบบ ช็อคหน้า-หลังไม่ได้อยู่ดี ดูเสือภูเขาประเภท Full suspension

เบรคแบบก้ามปู-วิธีเลือกซื้อจักรยานเสือภูเขา  ดิสก์เบรค-วิธีเลือกซื้อจักรยานเสือภูเขา

4. ระบบเบรคแบบ ดิสก์เบรค (Disc brakes) หรือ แบบก้ามปู (Rim brake) ดี?
ดิสก์เบรค (Disc brakes) มีประสิทธิภาพดีมากกว่าเบรคแบบก้ามปู (Rim brake) ไม่ต้องการการดูแลมาก ซึ่งเบรคแบบก้ามปูจะมีข้อบกพร่อง หรือทำงานได้ไม่ดีพอในสภาพเปียกน้ำ หรือเต็มไปด้วยโคลน แต่มีข้อดีตรงที่น้ำหนักเบา
แต่อย่างไรก็ตาม, ดิสก์เบรค มักจะมีน้ำหนักมากกว่า เบรคก้ามปู ประมาณ 150-350 กรัม ขึ้นอยู่กับ ขนาดล้อ, ขอบ, ฮับและระบบดิสก์เบรคที่คุณเลือก นอกจาก หากคุณต้องการเปลี่ยนจากระบบเบรคหนึ่ง ไปยังระบบเบรคหนึ่ง คุณจะต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งเซต เพราะระบบเบรคแต่ละประเภทจะไม่รองรับล้อ หรือขอบล้อของเบรคอีกประเภทหนึ่ง ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อควรตัดสินใจให้แน่นอนว่าต้องการเบรคแบบไหน

5. สปีด หรือ ระดับเกียร์
ปัจจุบันนี้มีเกียร์มากมายหลายสปีด ซึ่งจริงๆแล้ว ผู้ขับขี่จักรยานมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถึงคุณจะมีจักรยาน 24-27 สปีด คุณจะใช้มันไม่ครบ อาจจะใช้ได้เพียง 15-16 อัตราทดเท่านั้น ซึ่งการขับขี่ก็จะต้องมีเทคนิคด้วย ผู้ขับขี้จะต้องรู้ว่า ตอนนี้ตนใช้เกียร์ใดหรือแถวโซ่อยู่ด้านใด การเปลี่ยนเกียร์จากหน้าไปในสุด หรือจากจานหน้าใหญ่สุด ไปหลังใหญ่สุด จะเสียงต่อขาตีนผีถูกบิดจนโก่งงอ นอกเรื่องไปมากแล้ว กลับมาระบบเกี่ยร์ที่คุณควรจะเลือกซื้อต่อ จากรายละเอียดข้างบน คุณต้องการสปีดเท่าไหร่ แบบไหน อยู่ในงบหรือไม่ ควรพิจารณาถึงความเหมาะสมกับความต้องการของคุณ

6. ทดลองขี่
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนการจะเลือกจักรยานคู่ใจ ก็ควรจะทดสอบว่า มันเหมาะกับความต้องการของคุณหรือไม่ เบรคเป็นอย่างไร ขณะปั่นถูกใจหรือไม่ คุณสามารถทดสอบได้ด้วยตัวของคุณเอง
จบลงแล้วสำหรับการเลือกซื้อรถจักรยานเสือภูเขา ต่อไปบทความหน้า จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรติดตามได้นะครับ

โฆษณา