คำเตือนสำหรับผู้คัดลอก

เนื่องจากมีผู้คิดคัดลอก บทความบางส่วน หรือ บทความทั้งหมด จากเว็บบล็อก http://mountainbikedetail.blogspot.com/
ผู้ที่คัดลอกต้องแสดงการอ้างอิง หรือ ให้ลิงค์กลับมายัง เวบบล็อก ของเราหรือแสดงความจำนงที่จะนำบทความไปใช้ โดยแจ้งผ่านทางอีเมล์ หรือ ทางแฟนเพจ

มิฉะนั้น ทางเราจะแจ้งดำเนินคดี ฟ้องร้องการละเมิดลิขสิทธ์

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รีวิวจักรยาน สุดล้ำเทคโนโลยี: Trek Remedy 8

โฆษณา

Trek Remedy 8 Review: จักรยานสุดไฮเทค สวยโดนใจ.

Trek Remedy 8 MTB จักรยานสุดไฮเทค สวยโดนใจ
ถึงแม้ว่าในขณะที่เราให้ความสนใจและนำเสนอการรีวิว Trek Remedy 8 อยู่นี้ ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า ตอนนี้ทาง Trek ก็ได้ออกตัว Remedy 9 ด้วยเช่นกัน ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันพอสมควร โดยตัวที่เรากำลังเขียนถึงนี้ ราคาค่าตัวราวๆ 77,500 บาท($2500) ส่วน Remedy 9 ค่าตัวจะแพงกว่าคือ 99,200 บาท ($3200) หากมีโอกาสคงได้นำมาเขียนให้แฟน Trek ชาวไทยได้อ่านกัน

ส่วนประกอบของ Trek Remedy 8.

  • Frame: Alpha Platinum Aluminium w/ABP Convert, Full Floater, E2 tapered head tube, front derailleur internal cable routing, stealth-routing ready, magnesium EVO Link, Mino Link, replaceable derailleur hanger, 150mm travel
  • Rear Shock: Fox Performance Series Float RP-2 w/DRCV, ProPedal, rebound; 7.75x2.25", tuned by Trek in California
  • Fork: Fox 32 Float RL, Trek DRCV air spring, lockout, rebound, E2 tapered steerer, 15QR thru axle, 150mm travel, tuned by Trek in California
  • Front Derailleur: Shimano SLX, direct mount
  • Rear Derailleur: Shimano Deore XT M780 Shadow
  • Number of Gears: 30
  • Shifters: Shimano SLX M660-10, 10 speed
  • Chainset: Shimano M552, 42/32/24
  • Chainrings: 42/32/24 Teeth
  • Cassette: Shimano HG62-10 11-36, 10 speed
  • Front Brake: Shimano SLX M666 hydraulic disc brakes
  • Rear Brake: Shimano SLX M666 hydraulic disc brakes
  • Brake Levers: Shimano SLX M666 hydraulic disc brakes
  • Handlebars: Bontrager Low Riser, 31.8mm, 15mm rise, 9 degree sweep
  • Stem: Bontrager Rhythm Pro, 31.8mm
  • Headset: FSA NO.57E, E2, ACB sealed bearings
  • Grips: Bontrager Rhythm, dual lock-on
  • Rims: Bontrager Duster Disc 32-hole rims, Tubeless Ready
  • Front Hub: Bontrager 15mm alloy front hub
  • Rear Hub: Shimano M525 alloy rear hub
  • Front Tyre: Bontrager XR4 Expert, 26x2.35"
  • Rear Tyre: Bontrager XR4 Expert, 26x2.35"
  • Saddle: Bontrager Evoke 2, Chromoly rails
  • Seatpost: Bontrager Rhythm Elite, 31.6mm, zero offset
  • Extra Features: Trek fork & shock sag meter, Bontrager shock pump
  • Weight: 14.2kg (31.24lbs) approx for the 17.5 Inch size, with pedals (prebuild).
Trek Remedy 8 MTB รีวิว

Trek Remedy 8 เป็นจักรยานเสือภูเขาชนิดที่เรียกว่า Full-Floater suspension หรือ ช็อคอัพแบบเต็มตัวทั้งหน้าและหลัง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่ Trek ภาคภูมิใจ คือ Active Braking Pivot (APB) technology. ซึ่งตัวช็อคอัพจะเป็นของ Fox ทั้งหน้า-หลังเป็นขนาด 6 นิ้ว มีคุณสมบัติพิเศษคือ จะมีมิเตอร์ให้ปรับระดับของช็อคอัพได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ หรือเรียกอีกแง่หนึ่งก็คือ ปรับระดับความดันอากาศในตัวช็อคอัพนั้นเอง(Dual-Rate Control Valve) ในส่วนระบบเบรคจะเป็นของ Shimano ซึ่งเป็นแบบดิสเบรค เชื่อถือได้แม้ในความเร็วสูง
เฟรมทำจาก Alpha Platinum ให้ความแข็งแกร่งทนทาน และมีน้ำหนักเบา, ระบบเกียร์ ก็ยังคงเป็นของ Shimano เช่นคย

ผลการขับขี่: Trek Remedy 8 ให้ความรู้สึกในการขับขี่ได้ดีและมีประสิทธิภาพมาก เรียกได้ว่า สบายในการขับขี่ มันทำได้ดีได้ทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะปีนเขา หรือปั่นในทางธรรมดา ระบบช็อคอัพมีความสมดุลกันได้ดี ระบบเบรค APB ที่ช่วยให้ผู้ขี่ไม่ต้องออกแรงเบรคมาก แต่การเบรคมีประสิทธิภาพที่ดีและมั่นใจได้ นอกจากนี้ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ดีมากขึ้น และทำความเร็วได้ดี
สรุปแล้ว มันเป็นจักรยานเสือภูเขาที่มีประสิทธิภาพดี อุปกรณ์ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นทียอมรับสำหรับนักปั่นว่า มันสุดยอดแล้ว คงจะไม่มีข้อเสียประการใดสำหรับจักรยานราคาเกือบๆแสนบาทแบบนี้

Trek Remedy 8 รีวิวอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Trek.com

โฆษณา advertise

วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เทคนิคการเปลี่ยนเกียร์อย่างมีประสิทธิภาพ(How to Effectively Shift Your Bike's Gears)

โฆษณา

การเปลี่ยนเกียร์อย่างมีประสิทธิภาพควรทำอย่างไร?

การขับขี่จักรยานเสือภูเขาสำหรับผู้เริ่มต้น

ไม่เพียงเฉพาะผู้เริ่มต้น แต่ผู้ที่ปั่นจักรยาน MTB มานาน บางครั้งก็ยังมีการเปลี่ยนเกียร์ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งทำให้ชุดเกียร์สึกหรอเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

เทคนิคพื้นฐานของการเปลี่ยนเกียร์ที่ถูกต้อง

ปัจจัยพื้นฐาน: วัตถุประสงค์หลักของเกียร์คือ การทำให้จักรยานง่ายต่อการขึ้นเขา หรือไต่ไปบนที่สูง หรือแม้กระทั่งง่ายต่อการปั่นของคุณ สิ่งสำคัญที่ควรจะทำก็คือ รักษาระดับในการปั่นหรือเปลี่ยนระดับไม่ตามสภาพอากาศ หรือบรรยากาศรอบๆข้างของคุณ
ขั้นตอนแรก: คุณควรเปลี่ยนเกียร์ขณะที่คุณกำลังปั่นจักรยาน ขั้นตอนนี้จะเหมือนเป็นสั่งให้โซ่เคลื่อนที่ไปยัง สับจานหน้า (Front derailleur) หรือเฟื่องหน้าไปเฟื่องหลัง (Rear derailleur) ดังนั้นมันจึงเป็นวิธีที่ผิดหากคุณเปลี่ยนเกียร์ในขณะที่รถจักรยานยังไม่ออกตัว และมันจะส่งผลทำให้สายเกียร์ยืดทันที่ที่คุณเปลี่ยนเกียร์เมื่อคุณจะออกสตาร์ทอีกครั้ง

กลับมาสู่เทคนิคการเปลี่ยนเกียร์

1. เปลี่ยนเกียร์ในขณะจ้วงเร็วๆ หรือก้าวเร็วจะง่ายกว่าขณะที่คุณปั่นช้าๆ เพราะจะทำให้ชุดเกียร์หนักขึ้น คุณจะใช้กำลังกายมากขึ้นในการปั่นจักรยาน เทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อของคุณ และสามารถปั่นจักรยานได้เป็นระยะเวลานานขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถจะเร่งความเร็ว หรือกระโดดได้ดี
2. สิ่งสำคัญที่สุดคือ แบ่งเบาลดความดันให้กับคันเหยียบจักรยาน การลดน้ำหนักความดันบนคันเหยียบจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้นขณะที่เปลี่ยนเกียร์ หรือพยายามลดเสียงรบกวนขณะที่คุณเปลี่ยนเกียร์ให้ลดน้อยลง สิ่งเหล่านี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานให้แก่ระบบเกียร์ของคุณ
3. ใช้เกียร์ต่ำที่มีหมายเลขที่อยู่ทางซ้ายกับเกียร์ของคุณต่ำเลขที่อยู่ด้านขวา และใช้หมายเลขที่สูงให้ตรงกับหมายเลขที่สูงอีกข้างหนึ่ง ดังนั้นหากคุณอยู่ในจำนวนเกียร์หนึ่งอยู่ทางซ้ายมือคุณควรใช้เกียร์ที่มีหมายเลขหนึ่งถึงสี่ด้านขวา ในทำนองเดียวกันถ้าคุณอยู่ในเกียร์สามที่อยู่ทางซ้าย คุณควรใช้กับตัวเลขเกียร์ห้าขึ้นไปทางด้านขวา
เคล็ดลับนี้จะทำอย่างไรกับสายโซ่ แม้ว่าจะไม่เกิดความเสียหายจริง ซึ่งเป็นการทำโดยใช้เกียร์ผิดร่วมกัน แต่คุณก็ควรจะหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ทำให้เกิดเสียงหรือการสั่นกับระบบเกียร์อย่างที่คุณได้ยิน จำนวนของเกียร์ที่มากับจักรยานของวันนี้ คุณสามารถหลีกเลี่ยง "การผสมเกียร์สูงและต่ำของคุณ" และยังพบว่า สะดวกกับการเปลี่ยนเกียร์ในขณะที่ปั่นจักรยาน
หลีกเลี่ยงการทำงานเฟืองขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้ากับเฟืองขนาดใหญ่ด้านหลัง ทำนองเดียวกันหลีกเลี่ยงการใช้เฟืองเล็กด้านหน้ากับเฟืองเล็กด้านหลัง คือ ไม่ควรใช้โซ่ให้บิดกันในเฟืองหน้าและหลัง
4. อย่าลืมเปลี่ยนกลับไปเป็นเกียร์ต่ำก่อนที่จะหยุดเพื่อที่คุณจะอยู่ในเกียร์ได้ง่ายสำหรับการเริ่มต้นออกมาอีกครั้ง
เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณเปลี่ยนเกียร์ได้ง่ายขึ้น เช่นการเปลี่ยนเกียร์ไปเป็นเกียร์ต่ำ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องกำลังในการปั่นมากขึ้น เช่นขึ้นเขาและเปลี่ยนเกียร์ไปเป็นเกียร์สูง การเปลี่ยนเกียร์นี้จะช่วยให้คุณขึ้นเขาได้ง่ายขึ้นและช่วยให้คุณปั่นได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
อ่านเพิ่มเติม: มือใหม่กับการเปลี่ยนเกียร์เสือภูเขา

แปลจาก: http://www.intownbicycles.com


โฆษณา