คำเตือนสำหรับผู้คัดลอก

เนื่องจากมีผู้คิดคัดลอก บทความบางส่วน หรือ บทความทั้งหมด จากเว็บบล็อก http://mountainbikedetail.blogspot.com/
ผู้ที่คัดลอกต้องแสดงการอ้างอิง หรือ ให้ลิงค์กลับมายัง เวบบล็อก ของเราหรือแสดงความจำนงที่จะนำบทความไปใช้ โดยแจ้งผ่านทางอีเมล์ หรือ ทางแฟนเพจ

มิฉะนั้น ทางเราจะแจ้งดำเนินคดี ฟ้องร้องการละเมิดลิขสิทธ์

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559

จักรยานเสือภูเขา Merida BIG.SEVEN 100 ปี 2017

โฆษณา

จักรยานเสือภูเขาปี 2017 จากค่าย Merida BIG.SEVEN 100

Merida Big Seven 100 ปี 2017
จริงๆแล้วเสือภูเขาจาก Merida BIG.SEVEN ปี 2017 มีหลายรุ่นและหลายราคาด้วยกันนะครับ โดยเริ่มจากรุ่น BIG.SEVEN 20-MD ซึ่งราคาจะเหมาะกับนักปั่นมือใหม่ที่ต้องการจักรยานราคาไม่แพงมากนัก และข่าวตัวใหม่นี้ก็มีมาตั้งแต่กลางปีแล้วล่ะ แต่ก็ยังไม่มีรีวิวหรือการทดสอบอะไรออกมามากมายนัก

จุดประสงค์ของการสร้าง Big Seven กับ Big Nine ของ Merida ก็คือ การทำเสือภูเขามาเพื่อแข่ง Cross country (เขามีทีมแข่งเฉพาะของเขาเลย เรียกว่า MULTIVAN MERIDA BIKING TEAM) ดังนั้นจึงไม่น่าประหลาดใจที่จะพวกเขาจะโฟกัสไปที่การออกแบบจักรยานมาเพื่อการนี้ ไม่ว่าจะเป็นเฟรม, องศา หรือ ความสะดวกสบายในการขับขี่ให้แก่นักปั่น จักรยานใหม่ๆที่ออกมา ก็จะมีการปรับแต่งที่ Down Tube หรือ ท่อด้านล่าง จนได้เอาไปต่อยอดในรุ่น SCULTURA สำหรับ road bike และได้รับรางวัลชนะเลิศด้วย

Big Seven กับ Big Nine


การพัฒนานั้นก็เป็นพัฒนาจากบรรดานักปั่นในทีมของ Merida นั่นเอง เรียกว่าเป็นการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างนักพัฒนาและนักปั่น อะไรบ้างที่มันเป็นอุปสรรค หรือปัญหา ก็จะถูกปรับปรุงและแก้ไขให้ลดน้อยลง และอะไรบ้างที่นักปั่นต้องการ ก็มีการพัฒนาต่อยอดจากเดิมเพิ่มขึ้นมา



โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟรม ซึ่งมีชื่อว่า CF5 Frame จะมีน้ำหนักประมาณ 900g +/- 3% (size M 29er) ผสมกับชุดขับเคลื่อน 1 x drivetrains ทั้งหมดจะรวมกับอุปกรณ์อื่นที่ช่วยให้ความสบายมากขึ้น ไม่ใช่จะขาโหดอย่างเดียว เช่น S-Flex seatpost หรือ Chainstay ที่ต้องปรับปรุงตรงนี้ด้วยเพราะว่าเป็นจักรยานเสือภูเขาแบบ Hardtail ไม่มีโช๊คอัพข้างหลังนั่นเอง จึงต้องปรับให้มันมีความรู้สึกไม่แข็งกระด้างเกินไปนัก ทำให้ปั่นได้นานๆ

Big Nine 9000 ที่มากับเฟรม CF5 หนักเพียง 8.49 kg
ตัว Big Seven / Big Nine ที่ได้กล่าวมานี้ ทาง Merida กำหนดไว้เลยว่า น้ำหนักจะต้องไม่เกิน 1005 Kg อุปกรณ์ทุกอย่างจะถูกจำกัดน้ำหนักอย่างดี แต่ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ ไม่ได้มาใน รุ่น  BIG.SEVEN 100 ปี 2017 ที่เราเอามาเป็นตัวอย่างในบทความนี้นะครับ


เพราะอย่างที่รู้ๆกันดีว่า มันจะต้องถูกบรรจุไว้ในตัวท้อป หรือ ตัวแข่งของเขา เช่น ตัว BIG.SEVEN XT ที่มีเฟรม CF3 น้ำหนักอยู่ที่ 10.68kg และตัวท้อปสุดก็คือ ตัว BIG.SEVEN TEAM ใช้เฟรมคาร์บอน CF5 น้ำหนักที่ 8.34 kg สุดยอดมากๆครับ

Merida BIG.SEVEN TEAM 2017 เบาสุดๆ
จักรยานเสือภูเขาของ Merida รุ่น Big Seven / Big Nine นั้นจะมีเพียง 2 ประเภทให้เลือกนั้นคือ 27.5 นิ้ว กับ 29 นิ้ว

สเปคของ Merida BIG.SEVEN 100 ปี 2017 ล้อ 27.5 นิ้ว

  • เฟรม FRAME BIG.SEVEN TFS
  • โช๊คอัพหน้า หรือ ตะเกียบ SR 27 XCM HLO 100
  • สับจานหน้า Shimano M3000
  • ตีนผี Shimano Alivio
  • ชุดเปลี่ยนเกียร์(shifter) Shimano Altus rapidfire
  • เบรค Shimano M315 180 cen / Shimano M315 160 cen
  • จานหน้า SR XCM 40-30-22 CG
  • เฟื่องหลัง Shimano CS-HG200-9 11-34
  • โซ่ KMC M99
  • Hub Shimano Centerlock
  • ล้อ MERIDA Big 7 comp CC
  • ยาง Maxxis Ikon 27.5 2.2 fold
  • สตรีม MERIDA Comp OS 6
  • บาร์ MERIDA comp OS 700 R12
  • แฮนด์เซ็ท BC OV Neck
  • หลักอาน MERIDA comp SB12 27.2
  • บันได MERIDA Sport
  • น้ำหนักโดยรวม 13.73 kg

ท่านใดที่ดูแล้วงงๆ ไม่รู้ว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหน ก็ให้สังเกตุที่เฟรมใต้หลักอาน จะมีตัวเลขหรือชื่อรุ่นอยู่ครับ



ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี้เลยครับ
http://www.merida-bikes.com/en_int/bikes/mtb-hardtails/2017/873-bikefinder.html

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เปิดตัวจักรยานเสือภูเขา Trek Fuel EX8 2017 ล้อขนาด 27.5 และ 29

โฆษณา

จักรยานเสือภูเขาจาก Trek Fuel EX8 ปี 2017 ที่มาเฉพาะล้อ 27.5 นิ้ว และ 29 นิ้ว



เริ่มกันที่ Trek Fuel EX8 27.5 Plus กันก่อน 


โดยคอนเซปของ Trek Fuel EX 2017นั้นจะมุ่งเน้นไปที่การขับขี่ได้ทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะแข่ง หรือปั่นเพื่อสุขภาพ สนนราคาที่หน้าเว็บไซต์ของ Trek ก็จะอยู่ที่ $3299.99 เป็นเงินไทยก็ประมาณ 115,500 บาท (คิดอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันที่ 35 บาทครับ)

ฟังก์ชั่นที่โดดเด่นของ Trek Fuel EX8 27.5 Plus


  • Boost148/110 ระยะห่างของเพลา ด้านหน้าคือ 110mm ด้านหลัง 148mm ซึ่งจะเหมาะสมกับล้อขนาด 27.5 แต่จะสร้างข้อได้เปรียบให้กับล้อขนาด 29 และด้วยความที่ด้านหลังมีระยะห่างถึง 148mm ก็จะทำให้เราสามารถใช้หน้ายางกว้างๆได้ สามารถที่จะลุยได้ทุกสภาพถนนโดยปราศจากผลกระทบใดๆ
  • Control Freak Cable Management ช่องเก็บสายเคเบิ้ล สายเบรคต่างๆ ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม ไม่เกะกะไม่รกไม่รุงรัง เป็นการซ่อนสายไว้ในเฟรมเหมือนยี่ห้ออื่นๆแต่จะแตกต่างกันไปตามการออกแบบ 

  • Mino Link adjustable geometry คุณสามารถปรับองศาของ Head Tube ได้ สูงสุดคือ 10mm โดยไม่สร้างผลกระทบใดๆแก่ระบบโช๊คอัพ 
Mino Link

  • Alpha Platinum Aluminum เฟรมแบบแพทตินั่มอลูมิเนียม 
  • ABP หรือ Active Braking Pivot เป็นการรองรับการทำงานของโช๊คอัพด้านหลัง ที่จะมีประสิทธิภาพดีขึ้นในขณะที่เราเบรค (ป้องกันปัญหาโช๊คอัพล็อคเมื่อเราเบรคแรงๆ)
  • Re:aktiv เป็นเทคโนโลยีของ Trek ที่จะนำเอาระบบโช๊คอัพจากรถแข่ง Formula 1 มาใช้กับจักรยานเสือภูเขา 
Re:aktiv

  • Straight Shot/ Knock Block frame เฟรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อความสั้นตรงแต่ป้องกันการเกิดความตึงเครียดจากการน้ำหนักที่มีการปรับแต่งอื่นๆเพิ่มเติม เช่น ถ้าคุณปรับตัว Mino link องศาน้ำหนักที่กดลงจากนักปั่นก็จะมีผลกระทบกับเฟรม และการขับขี่ เมื่อมีการออกแบบและเทคโนโลยีนี้ก็จะทำให้มั่นใจในทุกระยะการปั่น
Knock Block frame


ส่วน Trek Fuel EX8 29 


รุ่น Fuel EX8 ล้อ 29 นั้น ก็มีฟังก์ชั่นเหมือนกันกับรุ่น 27.5 Plus ทุกประการ แต่ราคาก็จะต่างกันตรงที่ รุ่นนี้ถึงจะเป็นรุ่น 29 นิ้ว แต่ก็ถูกกว่ากัน 100 เหรียญ นั้นคือ $3199.99 ครับ ดังนั้นจึงต้องมาดูที่วัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่มีมาจะแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ทำไมถึงราคาจึงทำให้รุ่นพี่บิ๊ก 29 นิ้วถูกกว่า

Trek Fuel EX8 29 

สเปคของ Trek Fuel EX8 27.5 Plus
  • ชุดเฟรมและฟังก์ชั่นเสริม: Alpha Platinum Aluminum, ABP, Boost148, Knock Block steerer stop, Full Floater, EVO link, E2 tapered head tube, Mino Link, Control Freak internal routing, down tube guard, PF92, ISCG 05, G2 Geometry, 130mm travel
  • โช๊คอัพหน้า: Fox Rhythm 34 Float, Grip adjustable damper, E2 tapered steerer, Boost110, G2 Geometry w/51mm offset, 140mm travel
  • โช๊คอัพหลัง: Fox Performance Float EVOL, RE:aktiv 3-position damper, tuned by Trek Suspension Lab, 210x52.5mm
  • ชุดเกียร์: SRAM GX, 11 speed
  • ตีนผี: SRAM GX, Roller Bearing Clutch
  • จานหน้า: SRAM GX 1000, 32T X-Sync
  • กระโหลก: PF92
  • จานหลัง: SRAM XG-1150, 10-42, 11 speed
  • โซ่: SRAM PC 1130
  • อาน: Bontrager Evoke 2, chromoly rails
  • หลักอาน: KS eThirty Integra, remote lever, 2-bolt head, 31.6mm, zero offset, internal routing
  • บาร์: Bontrager Line, 35mm, 15mm rise, 750mm width
  • สตีม: Bontrager Line, Knock Block, 35mm, 0 degree
  • Headset: Knock Block Integrated, cartridge bearing, sealed, 1-1/8" top, 1.5" bottom
  • ชุดเบรค: Shimano Deore hydraulic disc
  • ล้อ: Bontrager sealed bearing hubs, alloy axle Boost110 front, Boost148 rear; SUNringlé Duroc 40 SL 28-hole rims
  • Hub หน้า: Bontrager sealed bearing, alloy axle, Boost110
  • Hub หลัง: Bontrager sealed bearing, Boost148
  • ยาง: Bontrager Chupacabra, Tubeless Ready, Inner Strength sidewalls, aramid bead, 27.5x2.80"
  • น้ำหนักโดยประมาณ 14.15Kg.
Trek Fuel EX8 27.5 Plus



สเปคของ Trek Fuel EX8 29
  • เฟรมและฟังก์ชั่นเสริม: Alpha Platinum Aluminum, ABP, Boost148, Knock Block steerer stop, Full Floater, EVO link, E2 tapered head tube, Mino Link, Control Freak internal routing, down tube guard, PF92, ISCG 05, G2 Geometry, 130mm
  • โช๊คอัพหน้า: Fox Rhythm 34 Float, Grip adjustable damper, E2 tapered steerer, Boost110, G2 Geometry w/51mm offset, 130mm travel
  • โช๊คอัพหลัง: Fox Performance Float EVOL, RE:aktiv 3-position damper, tuned by Trek Suspension Lab, 210x52.5mm
  • ชุดเกียร์: Shimano Deore XT M8000, 11 speed
  • ตีนผี: Shimano Deore XT, Shadow Plus
  • สับจานหน้า: Shimano Deore, high direct mount
  • จานหน้า: Shimano Deore XT, 36/26
  • กระโหลก: PF92
  • จานหลัง หรือ เฟืองหลัง: Shimano Deore XT, 11-42, 11 speed
  • โซ่: Shimano HG60
  • อาน: Bontrager Evoke 2, chromoly rails
  • หลักอาน: KS eThirty Integra, remote lever, 2-bolt head, 31.6mm, zero offset, internal routing
  • บาร์: Bontrager Line, 35mm, 15mm rise, 750mm width
  • สตีม: Bontrager Line, Knock Block, 35mm, 0 degree
  • Headset: Knock Block Integrated, cartridge bearing, sealed, 1-1/8" top, 1.5" bottom
  • ชุดเบรค: Shimano Deore hydraulic disc
  • ล้อ: Bontrager Duster Elite, Tubeless Ready, Boost110 front, Boost148 rear
  • ยาง: Bontrager XR3 Expert, Tubeless Ready, Inner Strength sidewalls, aramid bead, 29x2.40"
  • น้ำหนักโดยประมาณ 14.11 kg

เมื่อได้เปรียบเทียบกันแล้วจะแตกต่างกันที่ชุดเกียร์ครับ ของชิมาโน่ ราคาจะถูกกว่านิดหนึ่งครับ นอกนั้นก็ไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างกันมากนัก และนอกจากนี้ Trek Fuel EX8 2017 ก็ยังมีสเปคที่ทำมาสำหรับผู้หญิงด้วย จะมี 2 รุ่น คือ เฟรมคาร์บอน กับ อัลลอยด์

Trek Fuel EX8 29

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

แนะนำจักรยานเสือภูเขา Trek 2017

โฆษณา

New MTB Trek 2017 จักรยานเสือภูเขาปีนี้ มีอะไรใหม่บ้าง



ตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เราจะกลับมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวของเสือภูเขากันต่อ โดยปีหน้า 2017 หรือ ปีพ.ศ 2560 เราได้นำเรื่องราวของ เสือภูเขาใหม่ๆมาให้ได้ชมกัน สำหรับบางท่านอาจจะได้ข่าวมาตั้งแต่กลางปีแล้ว แต่สำหรับบางท่าน ก็มาเริ่มข่าวใหม่ๆพร้อมเราได้เลย



เริ่ม Trek Remedy 9 Race Shop Limited 2017


เป็นที่ทุกท่านรู้กันว่า Trek Remedy 9 2017 ตัวนี้เป็นตัว Race Shop Limited หรือ มีราคาแพง $4,499.99
ก็ราวๆ 157-158k แปรผันตามอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นจึงจำหน่ายเฉพาะทีมหรือคนที่ต้องการจะแข่งขันรายการใดๆก็ตามแต่ที่มีจัดขึ้น หรือสำหรับผู้ที่มีงบประมาณเหลือๆต้องการจะปั่นรถจะลองรถรุ่นใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ ทำได้เลย
ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจก็คือ

  • เฟรมใหม่ขนาด 150mm ที่จะถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขัน Enduro and technical trails
  • Boost148/110, ล้อที่แข็งแรงขึ้น 
  • full-floater suspension design and ABP ควบคุมและวิจัยองศาหรือโช๊คอัพหลังด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ Trek

Trek Remedy 9 2017 ยังคงคุณสมบัติ Knock Block system เอาไว้ในรุ่นใหม่นี้ โดยการทำงานของมันจะหยุดการทำงานร่วมกันระหว่างโช๊คอัพและเฟรม ซึ่งเกิดจากการผิดพลาดโดยการใช้อัลลอยด์มาใช้ประยุกต์เป็นถ้วย หรือที่เรียกว่า headset cup ครอบระหว่างลูกปืนและเฟรม เพื่อลดแรงกระแทกและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับ Down Tube หรือท่อล่าง ดังนั้น ตัว Headset นี่จะต้องมีการวิจัยและผลิตให้ตอบสนองความใช้งานได้เป็นอย่างดี และมีเคล็ดลับเทคโนโลยีของแต่ละแบรนด์



ทางด้านโช็คอัพหน้า จะเป็น Rockshox Lyric RC สามารถปรับระยะได้ 2 ระยะคือ 160mm หรือ 130mm ด้านหลังนั้นจะมีระยะเดียวคือ Deluxe RT3 ขนาด 150mm  ระบบเกียร์ก็จะใช้ของ SRAM’s X1 ทั้งหมด จานหลังจะเป็น SRAM X1 32T 

บาร์เป็นของ Bontrager ขนาด 780mm, สตรีม ขนาด 35mm พวกอุปกรณ์ต่างๆ ก็จะเป็นของ  Bontrager ทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะ Drop Line ส่วนเบรคจะใช้ของ SRAM Guide RS brakes.


สรุปแล้วรุ่นนี้ความพิเศษก็จะเป็นเฟรม ที่เป็นเฟรม อัลลอยด์ (Alpha Platinum Aluminum) และ เฟรมคาร์บอน แล้วแต่ว่าจะเลือกใช้เฟรมใด ราคาก็จะขึ้นอยู่กับการเลือกเฟรมเป็นหลักครับ

รุ่น Trek Top Fuel 9.9 Race Shop Limited 2017



ราคาอยู่ที่ $8,999.99 แพงกว่าข้างบนอีกครึ่งเท่าตัว ราคาก็น่าจะราวๆ 3-4 แสนกระมังครับ ตัวนี้ ก็มันตัว Limited และ Top ด้วย ดังนั้นจึงแพงโข เป็นรุ่นที่ใช้แข่งเหมือนกัน สำหรับพวก cross-country, marathon rider หรือทีมแข่งของ Trek เองนั่นแหละครับ
  
เฟรมเป็นเฟรมคาร์บอน ชุคโช๊คอัพใช้ของ Fox ทั้งหน้าและหลัง ส่วนชุดเกียร์เป็นของ SRAM XX1 Eagle, 12 speed เฟือง 12 ชั้น (แค่ชุดเกียร์ ก็ซื้อ มอเตอร์ไซค์ได้ 1 คันแล้วครับ!)


ในสำหรับรุ่นของผู้หญิงก็มีมาด้วยครับ ก็จะแบ่งเป็นเฟรมคาร์บอน 1 รุ่น และเฟรมอื่นๆ เช่นกัน

คราวหน้าเจอกับรุ่นฮิตสวยอีกรุ่นนั้นคือ Trek Fuel EX 2017

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

New Trek MTB 2017 หายไปนาน พบกันใหม่ด้วยการเปิดตัวเสือภูเขา Trek ปี 2560 บทความหน้าครับ

เนื่องจากทีมงานได้ห่างหายไปนาน ขอกลับมาใหม่ด้วยข่าวใหม่จาก New Trek 2017



การหายไป ไม่ได้หายไปไหนหรอก เพียงแต่ยุ่งจากงานประจำที่ทำอยู่ และไม่ค่อยมีเวลามากนัก ดังนั้นจึงทำให้หายหน้าไปนานพอควร หลายปีเลยครับ ตอนนี้ว่างงานล่ะ เลยได้มีเวลากลับมาทำสิ่งที่ชอบและสนใจ

การกลับมา จึงอยากจะกลับมาพร้อมกับข่าวสารวงการจักรยานเสือภูเขาทั่วโลกเช่นเดิม โดยเริ่มจาก จักรยานเสือภูเขา แบรนด์ดังของคนไทยเสียก่อน นั่นคือ Trek 2017

บทความที่เราจะนำมาเสนอ ในคราวหน้านั้น คือ เรื่องราวของ 

 Trek Fuel EX และ Remedy  ดังนั้นอดใจรอคอยกันนิดหนึ่งนะครับ