คำเตือนสำหรับผู้คัดลอก

เนื่องจากมีผู้คิดคัดลอก บทความบางส่วน หรือ บทความทั้งหมด จากเว็บบล็อก http://mountainbikedetail.blogspot.com/
ผู้ที่คัดลอกต้องแสดงการอ้างอิง หรือ ให้ลิงค์กลับมายัง เวบบล็อก ของเราหรือแสดงความจำนงที่จะนำบทความไปใช้ โดยแจ้งผ่านทางอีเมล์ หรือ ทางแฟนเพจ

มิฉะนั้น ทางเราจะแจ้งดำเนินคดี ฟ้องร้องการละเมิดลิขสิทธ์

วันพุธที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560

วิธีการเลือกซื้อล้อรถจักรยานเสือภูเขา

โฆษณา

ค้นหาล้อที่ดีที่สุดสำหรับจักรยานเสือภูเขาเหมาะกับสไตล์การขี่และงบประมาณ


ล้อจักรยานเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่น่าสับสนมากที่สุดที่คุณจะเลือกซื้อสำหรับจักรยานเสือภูเขาของคุณ เนื่องจากว่ามีตัวเลือกมากมายหลายยี่ห้อที่ต่างก็โฆษณาว่าผลิตภัณฑ์ของตนมีข้อดีอย่างไรบ้าง? เราก็เลยมาช่วยให้คุณได้ตัดสิ่งต่างๆที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องมากนักกับการเลือกล้อ ซึ่งจะทำให้คุณมองถึงความจำเป็นหรือคุณสมบัติที่ตรงกับความต้องการของคุณได้มากที่สุด และถูกกับเงินในกระเป๋าของคุณอีกด้วย

1. ขนาดของล้อ

สิ่งแรกที่ควรพิจารณาคือล้อที่คุณกำลังจะซื้อมันพอดีกับจักรยานหรือไม่ เนื่องจากจักรยานเสือภูเขาในปัจจุบันมีเส้นผ่าศูนย์กลางของล้ออยู่ทั้งหมด 3 ขนาด ได้แก่ 26 นิ้ว, 27.5 นิ้ว หรือ650b และ 29 นิ้ว พร้อมกับอุปกรณ์ยึดเพลาหลายแบบ อย่างที่เรียกกันว่า ดุมล้อหรือ Hub 'quick release' ซึ่งถ้าจักรยานของคุณมีอุปกรณ์จำเป็นนี้และล้อที่ใช้รองรับอุปกรณ์พวกนี้ก็ง่ายสำหรับหาซื้อ



ดังนั้นการหาล้อจักรยานเสือภูเขาจะมีความแตกต่างกันไปตามขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง, ความกว้างของขอบล้อและอุปกรณ์ยึดล้อ ส่วนเชื่อมต่อโรเตอร์และเฟืองก็จะแตกต่างกันไป

ในส่วนของเพลาล้อค่อนข้างซับซ้อน โดยทั่วไปแล้วขนาด 100x15mm มักจะใช้สำหรับล้อหน้า และขนาด142x12mm ใช้สำหรับล้อหลัง แต่ก็ยังคงมีขนาดอื่นๆนอกจากนี้ด้วย ดังนั้นต้องมั่นใจว่า จักรยานเสือภูเขาของคุณใช้เพลาขนาดเท่าไหร่กันแน่



ดุมล้อ หรือ Hub จะมีหลายชุดที่สามารถนำมาปรับแต่งให้เข้าเพลาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงทำให้คุณมีหลายทางเลือกอีกเช่นกัน สุดท้ายที่ต้องระมัดระวังก็คือ การติดตั้ง disc brake rotor จะมีมาตรฐานในการใช้งานอยู่ 2 อย่าง คือ Center Lock กับ six-bolt ซึ่งทั้งสองอย่างจะใช้ด้วยกันไม่ได้ คือ โรเตอร์ดิสเบรคเป็นประเภทไหน ก็ต้องใช้แบบนั้น

2. แบบมียางในหรือไม่มี (tubeless)




มีการถกเถียงกันมากมายสำหรับการใส่ล้อเพราะมันจะต้องมียางใน ซึ่งในขณะนี้ก็ยังเป็นถกเถียงกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

สำหรับแบบมียางในนั้นเป็นวิธีที่ดั้งเดิมเก่าแก่และราคาไม่แพง แต่แบบ tubeless นั้นก็มีข้อดีตรงทนต่อการรั่วหรือยางแบน และสามารถปั่นได้หากลมในยางต่ำไปหรือยางอ่อนนั่นแหละ ช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่และความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ ต้องดูที่ขอบล้อครับว่ารองรับยางแบบไหน



เคล็ดลับ ถ้าขอบล้อของคุณเป็นแบบ tubeless rim หรือ tubeless ready มันจะมีข้อดี ก็คือความแข็งแกร่งและทนทานกว่าแบบดั้งเดิม ดังนั้นถ้าคุณชอบความทนทานก็เลือกใช้แบบนี้ก็ได้ครับ

3. ความกว้างของขอบล้อ

ขอบล้อในปัจจุบันนี้มีแนวโน้มที่จะมีขนาดกว้างขึ้นครับ (พึงจำไว้ว่าขนาดของขอบล้อด้านในมีความสำคัญมากที่สุด ไม่ใช่มองที่ด้านนอกอย่างเดียว) ก่อนหน้านี้ขนาด 19 มิลลิเมตรเคยเป็นมาตรฐานสำหรับล้อจักรยานเสือภูเขา แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะขนาด 21 ถึง 23 มม. มักจะนิยมใช้กันมากขึ้น โดยบางรุ่นจะมีขนาดสูงสุด 30 มม. หรือมากกว่า


ทำไมถึงมีขนาดมากขนาดนี้ เพราะว่าขนาดที่กว้างมากขึ้นจะส่งผลต่อความเสถียรของยาง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แรงกดดันในขณะที่ลมยางอ่อนลง) ขนาดของรอยยาง, แรงลมของยาง ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่อแรงฉุดทั้งหมด

4. การทำความเร็ว (Engagement speed)

เมื่อซื้อล้อใหม่คุณจะพบการอ้างอิงถึงความเร็ว หรือ การมีส่วนร่วมในการทำความเร็ว (Engagement speed) ซึ่งเป็นการอ้างถึง การยึด spring-loaded pawls ที่โหลดไว้บนเฟืองล้อที่อยู่ภายในของดุมล้อหลัง จะเกิดขึ้นประมาณ 2 วินาทีได้ เมื่อคุณเริ่มปั่นจักรยานอีกครั้งหลังจากปล่อยให้มันไหลไปเอง



ตัวเลขน้อยหรือองศาน้อยกว่า จะดีที่สุดเพราะคุณไม่ต้องใช้แรงเหยียบบันไดที่มากเกินไป แต่ทำให้ออกตัวได้ดี และยังสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างการปีนไต่ทางเทคนิคและการไหลตัว

ส่วนตัว quick-engaging hubs นั้นก็มีส่วนอย่างมากเช่นกัน ยิ่งน้ำหนักมากก็จะยิ่งส่งเสียงดังมากขึ้น ดังนั้นถ้าคุณไม่ชอบเสียงดังก็ควรเลี่ยงที่จะเล่นตัวนี้ และตัวฮับพวกนี้ต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมากจะต้องมีการหยอดน้ำมันหรืออัดจาระบี หมั่นดูแลเสมอเพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

5. น้ำหนักของล้อ

การที่เราจะขึ้นไปบนเนินเขาได้นั้น เราจำเป็นต้องออกแรงถีบมากขึ้น ดังนั้นน้ำหนักของล้อจึงจำเป็นต่อการเลือกซื้อ ไม่เพียงจะช่วยในการขึ้นเขาเท่านั้นนะครับ ล้อที่เบาจะช่วยให้เราทำความเร็วได้ดีขึ้นด้วย แม้ประสิทธิภาพการเบรกจะดีขึ้นเนื่องจากมีแรงเฉื่อยน้อย



มีแต่ข้อดีใช่ไหม? ข้อเสียก็มีนะ มันจะมีราคาแพงขึ้น ยิ่งน้ำหนักเบาก็ยิ่งแพง และยิ่งสวย เป็นอันตรายต่อกระเป๋าเงินเป็นอย่างมาก

6. ความทนทานและความสามารถในการให้บริการ

โดยปกติแล้วล้อใหม่อะไรๆก็มักจะดี แต่พอนานไปเราจะเห็นได้ว่า ความทนทานก็เป็นปัจจัยที่สำคัญเช่นกัน โปรดคำนึงถึงสภาพการขับขี่ในท้องถิ่นของคุณ และให้ความสำคัญกับชิ้นส่วนพวกฮับพวกซีลต่างๆ เช่น hub seals, วัสดุที่นำมาทำล้อ, ขอบล้อและส่วนอื่นๆ

ถ้าคุณปั่นจักรยานในสภาพที่ฝนตกบ่อยๆลุยโคลนบ่อยครั้ง สิ่งที่คุณควรใส่ใจมากๆก็คือ แบริ่งและซีลของดุมล้อหรือฮับ ซึ่งสามารถซื้อหาหรือเปลีี่ยนซ่อมได้ง่าย



ในทางกลับกันคนที่ปั่นกับทางกันดารมีหินมีฝุ่น ทางขรุขระโหดร้าย คุณก็ต้องมองหาล้อที่มีความแข็งแรงขอบล้อจะต้องรองรับแรงกระแทกโหดๆ สเปคของซี่ลวดหรือ spoke count สูงๆ (เช่น 28/32 spoke count หรือ มากกว่า)

เมื่อพูดถึงล้อ ถึงแม้ว่าจะทนทานแข็งแรงขนาดไหนก็ตามก็ยังมีข้อผิดพลาดและเกิดความเสียหายได้เช่นกันนะครับ การดูแลรักษาจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด ดังนั้นจะต้องมีร้านหรืออะไหล่ไว้สำรองหรือซ่อมแซมเวลาที่เสียหายหรือต้องเปลี่ยนเมื่อหมดอายุ เช่น แบริ่งหรือลูกปืนฮับ ซี่ลวด การที่ต้องนำจักรยานใส่รถเพื่อไปซ่อมในที่ไกลกว่าที่อยู่อาศัย อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก



7. ทุนหรืองบประมาณ

  แน่นอนว่าคุณต้องคำนึงถึงงบประมาณของคุณด้วย ไม่ใช่แค่ราคาซื้อเท่านั้น ในบางบริษัทผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายอาจจะมีการรับเปลี่ยนคืนในกรณีที่เกิดความเสียหาย หรือเสนอให้ส่วนลดในกรณีเกิดความผิดพลาดซึ่งแล้วแต่กรณีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ขึ้นอยู่กับการใช้งานที่คุณคาดว่าจะใช้ (และสไตล์การขี่)  สิ่งเหล่านี้อาจมีเหตุผลนะครับ เพราะว่าการเสียเงินซื้อครั้งแรกอาจจะไม่แพงเลย แต่ใช้ไปนานๆ อาจจะนำไปสู่การเสียเงินที่มากกว่าราคาล้อก็ได้

จบไปแล้วนะครับสำหรับการเลือกซื้อล้อจักรยานเสือภูเขา สำหรับคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องมากนักอ่านแล้วอาจจะงงๆ แรกๆถ้าคิดจะเปลี่ยนล้อ แนะนำว่าให้อ่านหาข้อมูลคร่าวๆก่อนและยกรถไปให้ช่างช่วยดูและแนะนำเพิ่มเติมให้ก็ได้ครับ เพราะเราต้องรู้บางอย่างคร่าวๆก่อนที่จะคุยกับช่าง ทั้งนี้จะได้ไม่ถูกเสนอล้อที่ราคาแพงเกินไปเกินงบประมาณและการใช้งานของเราครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น