คำเตือนสำหรับผู้คัดลอก

เนื่องจากมีผู้คิดคัดลอก บทความบางส่วน หรือ บทความทั้งหมด จากเว็บบล็อก http://mountainbikedetail.blogspot.com/
ผู้ที่คัดลอกต้องแสดงการอ้างอิง หรือ ให้ลิงค์กลับมายัง เวบบล็อก ของเราหรือแสดงความจำนงที่จะนำบทความไปใช้ โดยแจ้งผ่านทางอีเมล์ หรือ ทางแฟนเพจ

มิฉะนั้น ทางเราจะแจ้งดำเนินคดี ฟ้องร้องการละเมิดลิขสิทธ์

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เคล็ดลับในการช่วยให้ผู้หญิงปั่นจักรยานเสือภูเขาได้ดี

โฆษณา

เคล็ดลับจากนักปั่นสาวน่องเหล็กระดับโลก ที่จะมาบอกว่าผู้หญิงก็สามารถปั่นจักรยานได้ดีไม่แพ้ผู้ชาย

Lea Davison with her new 2014 Specialized S-Works full-suspension bike. The rocky course at Bear Mountain Resort saw many riders shelving their hard-tails for the weekend

นำมาจากบทสัมภาษณ์ของ Lea Davison นักปั่นสาวโอลิมปิค จากค่าย Specialized

เคล็ดลับที่จะทำให้ผู้หญิงปั่นจักรยานได้ดีและมีประสิทธิภาพนั้นมีดังนี้

A Different Ride: หากแปลเป็นแบบไทยๆก็น่าจะหมายถึง กล้าที่จะแตกต่าง Davison กล่าวว่า ปกติแล้วผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะปั่นเสือภูเขากับกลุ่มของผู้ชาย ซึ่งความแตกต่างมันมีอยู่ และบางครั้งมันไม่ได้ช่วยให้ผู้หญิงได้รับประสบการณ์ที่ดี และมันยังทำให้พัฒนาการหรือประสิทธิภาพการปั่นนั้นน้อยลง หรืออาจจะหยุดลงเลยก็ว่าได้ แล้วอะไรล่ะจะทำให้ดีขึ้น...หากคุณผู้หญิงต้องการที่มีประสิทธิภาพในการปั่นจริงๆในที่นี้หมายถึงการเป็นนักปั่นมืออาชีพ ลงแข่งรายการต่างๆนะครับ การเข้ากลุ่มกับผู้หญิงที่ชื่นชอบกีฬาเดียวกัน ปั่นไปด้วยกัน นั้นนี้จะช่วยให้ประสบการณ์การปั่นจักรยานนั้นสนุกสนาน น่าจดจำ น่านำไปพัฒนา และรู้วิธีหลบเลี่ยงเมื่อจะเกิดอุบัติเหตุ

เมื่ออ่านเคล็ดลับนี้แล้ว ผมก็เข้าใจเพราะว่า สมรรถนะทางร่างกายของผู้ชายกับผู้หญิงนั้นต่างกัน ผู้ชายจะชอบอะไรที่ผาดโผนบ้าพลังมากกว่า การที่ผู้หญิงจะมาปั่นกับผู้ชายแบบนี้ครั้งแรก มันอาจจะทำให้เธอรู้แหยงๆ หรือกล้าๆกลัวๆ หรือบางครั้งถ้าล้ม ก็อาจจะเข็ดไปเลยก็ได้ การสร้างประสบการณ์ครั้งแรกที่ดีนั้นก็จำเป็นเช่นกัน การเริ่มต้นกับกลุ่มผู้หญิงด้วยกันนั้น ก็ย่อมจะเบากว่า ซอฟกว่า และทำให้รู้สึกสนุกสนานกว่าก็ย่อมได้ครับ

Focus on Basics: ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง การเริ่มปั่นครั้งแรกนั้นมักจะเกิดปัญหาได้ทุกคน มีอยู่สองสิ่งด้วยกันที่สำหรับนักปั่นหน้าใหม่ควรจะคำนึงถึง นั้นคือ จงผ่อนคลาย มันจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมทุกอย่างได้อย่างที่ควรจะเป็น และอีกอย่างคือ จงโฟกัสไปที่ทางที่คุณจะไป ไม่ใช่ไปมองที่ต้นไม้ หรือคอยมองหาสิ่งกีดขวาง คือตรงนี้ เราสามารถมองเห็นหลุมหรือไม่ก็ท่อนไม้ โขดหินได้อยู่แล้ว และถ้าไม่สติแตกจนเกินไปเราก็สามารถที่จะหักหลบได้เอง โดยที่เราไม่ต้องไปจ้องมันอย่างเอาเป็นตาย ให้มองทางข้างหน้าไว้เสมอ

lea_racing_Stand Up

Stand Up: นักปั่นสาวหน้าใหม่จำนวนมากมักจะต้องเผชิญกับปัญหานี้ Davison พูดว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายนักเมื่อเราจะต้องยืน เพราะมันจะทำให้เรารู้สึกไม่มั่นคงในครั้งแรกๆ แต่มันสิ่งที่เราจะต้องฝึกให้มันดีขึ้น เหตุผลคือ ท่าที่ยืนบนอาน แล้วเท้าทั้งสองอยู่ท่าที่เสมอกัน หรือพูดอีกอย่าง บันได้แต่ละข้างเกือบจะตรงกันซึ่งเป็นท่าสำหรับการรุก หรือจู่โจมไปข้างหน้า (แสดงรูป) แขนและขาของเราจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกับแรงกระแทกหรือแรงช็อคที่จะเกิดขึ้น และมันจะทำให้เราควบคุมรถได้อย่างที่เราต้องการ (ดูจากภาพบน จะเห็นท่าทาง Stand up ได้ดีครับ)

Rebound from Crashes: จงพร้อมที่จะสู้ต่อเมื่อล้ม ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะล้มได้ ไม่ใช่คุณเพียงคนเดียวสักหน่อย แม้แต่นักแข่งระดับมือโปรก็มีโอกาสที่จะผิดพลาดได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาดนั้นต่างหาก จงใช้โอกาสพิจารณาจึงความเป็นจริง และทำอย่างไรที่จะให้มันไม่ผิดพลาดอีก ต่อมาก็คือ จงเริ่มใหม่และพยายามทำมันอีกครั้ง นี่คือคำพูดที่มีประโยชน์มากๆจากนักแข่งโอลิมปิคอย่าง Lea Davison ครับ (ในขณะนี้เธอยังครองอันดับ 1 ในรายการ USA Cycling Pro XCT, #6 stage ครับ)

นักแข่งโอลิมปิคอย่าง Lea Davison

นักปั่นจักรยานสาว Lea Davison

ก่อนหน้านี้ เธอเคยเป็นนักปั่นในกับทีม Trek มาก่อนครับ ในปี 2006
Lea Davison  with Trek mountain bike

ความสำเร็จที่ต้องแลกทั้งแรงกาย และแรงใจ
womens-pro-xct-winner-lea-davison-is-joined-on-the-podium-by-l-to-r-judy-freeman-chloe-woodruff-erica-tingey-and-amanda-sin-med

โฆษณา advertise









วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Specialized Crave เสือภูเขา 29 นิ้ว ที่น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง(เท่าไรนัก)

โฆษณา

Specialized Crave เสือภูเขา XC (Cross Country) ขนาดล้อ 29 นิ้ว

 
มาแล้วครับกับ Specialized Crave รุ่นล่าสุดในปี 2014 ที่เคยติดเอาไว้ แล้วเอาจักรยานสำหรับคุณผู้หญิงมาคั่นเพื่อดูทีมสาวสวยจาก Trek ไปแล้ว คราวนี้ก็มาลุยเช่นเดิมอีก เสือภูเขาตัวนี้จากเดิมมีชื่อว่า Carve แต่ก็ได้รับการเปลี่ยนที่ตัว r สะใหม่ ความหมายมันก็เลยกลับกลายจาก “แกะสลัก” มาเป็น “ความกระหาย” เรียกว่า พอเห็นเจ้านี้แล้วมีความอยากจะขี่มันขึ้นมาในบัดดล
มีอะไรใหม่บ้างสำหรับ Specialized Crave ตัวใหม่นี้

ที่แน่ๆเลยก็คือ น้ำหนักครับ Specialized Crave ตัวใหม่นี้ มีน้ำหนักเบากว่าตัวเดิมประมาณ 200 กรัม สำหรับรุ่น Crave Pro นะครับ จากนั้นเฟรมก็จะมีน้ำหนักสุทธิประมาณ 1.5 กิโลกรัม, standover ที่ต่ำกว่า, ช่วงโซ่จะยาวกว่า

Specialized Crave แบ่งออกเป็น 5 รุ่นนั้นคือ


Specialized crave pro 29 ปี 2014

CRAVE PRO 29 ราคาตั้งไว้ที่ $2,000 หรือประมาณ 6 หมื่นกว่าบาท

· มีความโดดเด่นที่ M4 Premium Aluminum frame เป็นอลูมิเนียมเฟรมที่น้ำหนักเบา
· 100mm-travel FOX Float
· Specialized Stout SL Disc 29" wheels ล้อแบบใหม่จาก specialized น้ำหนักเบา และแข็งแรง
· Custom SRAM 10-speed XC ผสมผสานกับ Shimano Deore XT Shadow Plus 10-speed ตีนผีที่มีคุณภาพดี งานนี้ไม่มีเส้นทางไหนที่หยุดคุณได้
· Shimano Deore hydraulic disc brakes เบรกไฮดรอลิค ด้านหน้าขนาด 180 มม. ช่วยให้มีแรงในการเบรคได้ดีขึ้น ด้านหลังขนาด 160 มม. นอกจากจะช่วยให้เบรกได้ดีแล้วยังช่วยลดน้ำหนักอีกด้วย

SBC GPL Copper Mtn 2013

CRAVE EXPERT 29 ราคาตั้งไว้ที่ $1800 หรือประมาณ 5 หมื่นกว่าบาท

· ตัวนี้เป็นอลูมิเนียมเฟรม M4 Premium Aluminum frame เช่นเดียวกับรุ่น Pro ครับ
· แต่แตกต่างกันตรงรุ่นนี้ใช้โช้คหน้าจาก RockShox รุ่น 100mm-travel RockShox Reba RL 29 fork
นอกจากสเปคก็เหมือนกันกับรุ่น Pro ไม่ว่าจะเป็นล้อขนาด 29 นิ้วน้ำหนักเบาจาก Specialized ระบบขับเคลื่อนจาก SRAM กับ Shimano เบรกก็ยังคงใช้ Shimano Deore hydraulic disc brakes อยู่ครับ แต่เป็นคนละรุ่นของ Pro นั้นจะเป็น BR-615 ส่วน Expert นั้นเป็นรุ่น BR-505 ดังนั้นคุณภาพอาจจะแตกต่างกันสักเล็กน้อย ส่วนโช้คนั้นจะต้องด้อยกว่ารุ่น Pro อย่างไม่สงสัย ราคาจึงแตกต่างกัน

specialized Crave Comp 29 ปี 2014

Carve Comp 29 ราคาตั้ง $1600 หรือประมาณ 5 หมื่นครับ

· M4 Premium Aluminum frame
· 100mm-travel RockShox Recon Gold 29 SL fork
· Specialized Stout SL Disc 29" wheels
· Custom SRAM 10-speed XC double-ring crankset กับตีนผี Shimano SLX Shadow Plus
· Shimano Deore hydraulic disc brakes รุ่น BR-445
รุ่นนี้เป็นเสือภูเขาที่ถูกกำหนดคอนเซปมาว่า คุ้มค่าที่สุดสำหรับ singletrack มีความเร็ว การควบคุมที่มั่นคง การเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างราบรื่น แม่นยำ พร้อมกับเบรกที่ฉับไวทรงประสิทธิภาพ

Specialized Crave 29 ปี 2014

Crave 29 ราคาตั้ง $1,400 หรือประมาณ 4 หมื่นกลางๆครับ

· M4 Premium Aluminum frame
· 100mm-travel RockShox XC32 29er fork features
· Specialized Stout SL Disc 29" wheels feature
· Custom SRAM 10-speed XC กับ Shimano Deore Shadow Plus
· Tektro Gemini dual piston hydraulic disc brakes

CRAVE SL 29 2014

CRAVE SL 29 ราคาตั้ง $1300 หรือประมาณ 4 หมื่นต้นๆ

รุ่นเป็นจักรยานแบบ singlespeed คือไม่มีระบบขับเคลื่อนหลายเกียร์ หรือพูดอีกอย่างคือ จักรยานไม่มีเกียร์ ปั่นแบบสบายๆไม่ต้องวุ่นวายกับการเปลี่ยนเกียร์ แต่จะปั่นให้มีประสิทธิภาพดีหรือไม่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกจานหน้าและจานหลัง หรือจำนวนของเฟื่องนั้นเองครับ สเปคเด่นก็จะมี
· M4 Premium Aluminum frame
· Specialized Chisel rigid carbon fork
· Specialized Stout SL Disc 29" wheels
· Custom SRAM singlespeed
· Shimano Deore hydraulic disc brakes

ถ้าถามว่าระหว่าง Stumpjumper กับ Crave เราจะเลือกอันไหนดี

จากที่อ่านรีวิวหรือคอมเมนท์ต่างๆมานักปั่นต่างชาติมักจะบอกว่า Crave นั้นเหมาะแก่การใช้ปั่นในระยะยาวกว่า Stumpjumper, และสำหรับคนที่ไม่ต้องการปั่นแบบลุยๆมากนัก มันให้องศาที่ไม่สูงจนเกินไป แต่ถ้าจะให้นักปั่นทั่วๆไปเลือก พวกเขาต่างก็เลือกตัว Stumpjumper กันทั้งนั้นเพราะมันเหนือกว่าทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นโช้ค, น้ำหนัก, การทำความเร็ว ถึงแม้ว่าเบรกของ Stumpjumper จะไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจแต่ก็สามารถที่จะอัพเกรดได้ในภายหลัง

2013 Carve Pro

ตัวนี้เป็น Specialized Carve ปี 2013 ครับ

โฆษณา advertise


วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Trek Project One เกิดมาเพื่อแฟนคลับของ Trek โดยเฉพาะ

โฆษณา

ข่าวดีสำหรับแฟนคลับจักรยานเสือภูเขาของ Trek ภายใต้โครงการ Project One


Trek Project One เกิดมาเพื่อแฟนคลับของ Trek โดยเฉพาะ

Trek Project One จักรยานเสือภูเขาที่คุณสามารถสร้างสรรค์ได้ตามความฝัน


จริงๆแล้วมันอาจจะไม่แปลกอะไรสำหรับการสั่งประกอบจักรยานเสือภูเขา แต่สำหรับโครงการ Project One นั้นผมมองว่ามันแตกต่างทีเดียว มันจะดีแค่ไหนหากจักรยานเสือภูเขา Trek ที่คุณกำลังปั่นอยู่นั้น มีมาเพื่อคุณเพียงคนเดียว ภายใต้ชื่อของ Trek แต่คุณสามารถสั่งสลักชื่อคุณ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นของคุณเพียงคนเดียว มันเจ๋งนะ ผมว่า

Project One จะช่วยให้ลูกค้าของ Trek สามารถคิด สร้างสรรค์ รถจักรยานสำหรับตัวเองได้มากมาย ชนิดเรียกได้ว่ามันแทบจะเป็นจักรยานสำหรับมืออาชีพเลย ไม่ใช่เพียงแต่เสือภูเขาอย่างเดียวนะครับที่คุณจะสามารถสั่งได้ เพราะว่า มันรวมทุกสายการผลิตของ Trek ที่มีนั้นคือ Road Bike ด้วย และรวมเอาเฟรมระดับ limited High end carbon ไว้ด้วยอย่างเช่น Fuel EX 9.9 29 นิ้ว, Superfly FS 9.9 และ Superfly HT 9.9 ถ้าเป็น เสือหมอบ หรือ Road bike ก็จะเป็นรุ่น Madone, Domane หรือ Speed Concept

จักรยานเสือภูเขาของ Trek ภายใต้โครงการ Project One

เริ่มแรกเลยเค้าจะให้เราเลือกโมเดลก่อนว่าต้องการโมเดลแบบไหน ก็เลือกตามแบบที่เค้ามีมาให้ได้เลย จากนั้นก็เลือกรูปแบบการเพนท์สี หรือลวดลาย (Paint) ลงบนเฟรมจะเลือกเอาแบบไหน ราคาจะถูกจะแพงก็แล้วแต่ลายที่เราเลือก ถ้าลายซับซ้อนหน่อยเล่นสีมากหน่อยก็แพงกว่า

จากนั้นก็ถึงมาส่วนของ Pesonalize คือ ให้เราพิมพ์ หรือลายเซ็น หรืออะไรก็ตามแต่ที่เราอยากจะให้เค้าสลักลง หรือพิมพ์ลงบนเฟรมของเรา ลายชื่อของเราก็จะไปปรากฏบนท่อบนของเฟรม

ในส่วนของชุดขับเคลื่อน Drivetrain & Supension ในส่วนนี้มีมาให้เราได้เลือกสรรสร้างจุใจ แต่มันไม่มีเซตที่ราคากลางๆนะครับ ถ้าเป็นของ Shimano ก็จะมีระดับ SLX ขึ้นไป ถ้าเป็นของ Sram ก็จะเริ่มต้นที่ x01กันเลยทีเดียว แล้วนอกจากนี้ยังมี โช้คหลัง (Shock), ชุดเบรก (Brakeset) และโช้คหน้า
ต่อไปคือส่วนของ Component หรือ อุปกรณ์อื่นๆ เช่น ชุดล้อ, ยาง, สตีม, แฮนด์บาร์, ท่ออาน, อานหรือมือจับ

Accessoris อื่นๆ จะเป็นพวกไมล์ หรือ ที่ไว้ขวด คราวนี้ก็ได้ทีเลยผมจะลองเลือกสเปคในฝันของผมบ้าง มาดูกันว่าผมจะเลือกสเปคอะไรบ้าง แล้วราคารวมแล้วมันจะเท่าไหร่ครับ แค่ความฝันเล็กๆสำหรับคนรัก Trek

และถ้าผมจะสร้างเสือภูเขาของผมบ้าง ภายใต้ โครงการ Trek Project One


จักรยานเสือภูเขาของ Trek ภายใต้โครงการ Project One

ข้างบนเป็นรถของผมที่ลองเลือกไว้ครับ ชุดขับเคลื่อนไม่เว่อร์เกินไปคือชุด Shimano XT และอุปกรณ์ทั้งหมดเป็นคาร์บอน ราคาก็ $8,489.21 คูณ 31 บาท ก็ประมาณ 263,000 บาทครับ อ๋อ...สำหรับรุ่น Road bike ทั้งหมดจะมีไซส์และสเปคสำหรับคุณผู้หญิงด้วยครับ ส่วนใหญ่ผมรู้สึกว่า Trek WSD ทีมจะเป็น Road bike ครับ

ลองเข้าเลือกดูครับแต่ไม่ต้องกดสั่งซื้อนะครับ มันไม่ดี (แต่่ถ้าต้องการซื้อก็กดได้เลยครับ)
http://www.trekbikes.com/ca/en/collections/custom_project_one/models/

วีดีโอไว้ดูเพลินๆ




โฆษณา advertise











วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Trek Women's Specific Design (WSD) bikes จักรยานเสือภูเขาสำหรับผู้หญิงจาก Trek

โฆษณา

Trek WSD จักรยานเสือภูเขาสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ

จักรยานเสือภูเขาสำหรับผู้หญิง Trek

เนื่องจากว่ามีคนสอบถามกันมาเรื่องการเลือกซื้อจักรยานเสือภูเขาสำหรับผู้หญิง และจริงๆแล้จะมีจักรยานรุ่นไหนบ้างที่เหมาะกับผู้หญิงบ้าง วันนี้ผมเลยเอาเรื่องนี้มาเขียนก่อน จริงๆแล้วยังค้างเรื่อง Specialized Crave กับทุกท่านอยู่เลย แต่ผมเห็นว่า ปัจจุบันผู้หญิงหันมาสนใจเรื่องปั่นจักรยานกันเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อน ผมจึงอยากนำเสนอข้อมูลใหม่ๆให้แก่ท่านสุภาพสตรีบ้างก็เท่านั้นเองครับ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า

Trek WSD เป็นจักรยานเสือภูเขาสำหรับผู้หญิงที่สร้างมาเพื่อรองรับสรีระร่างกายของผู้หญิง ซึ่งมีหลากหลายรุ่นเช่นกันไม่ได้มีเพียงเสือภูเขา แต่มี Road bike และแบบ Hybrid ด้วย ซึ่งผมจะขอนำเสนอแบบ MTB ก่อนแล้วค่อยอธิบายถึงรุ่นอื่นๆต่อไปเพราะสำหรับ Trek WSD แล้วมีเยอะครับไม่ใช่มีแค่รุ่นสองรุ่นเท่านั้น

จักรยานเสือภูเขา Trek Lush 29 Women’s

 

เริ่มจากจักรยานเสือภูเขาสำหรับผู้หญิงของ Trek ก่อนครับ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทนั้นคือ

Cross Country เนื่องจาก Trek มีความมั่นใจในเทคโนโลยีของพวกเขา พวกเขาคือผู้นำทางด้าน XC mountain bike ดังนั้นฟังก์ชั่นที่โดดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ มีน้ำหนักที่เบา ทรงประสิทธิภาพ และให้คุณไปได้ไกลเท่าที่ขาของคุณจะพามันไป หากใจคุณรักในการผจญภัย เพียงแค่หยิบมันและไปให้ตรงตามใจที่คุณอยากจะไป เสือภูเขารุ่นมี 3 รุ่นครับ นั้นคือ

- Lush 29 Women’s เป็นเสือภูเขาประเภท Full suspension ขนาดล้อ 29 นิ้ว ตัวนี้เป็นตัวที่ Trek บอกว่า มันท้อปสุดสำหรับจักรยานเสือภูเขาสำหรับผู้หญิง มีน้ำหนักเบา ขับขี่ได้ง่าย ราบรื่น ควบคุมได้ดี เฟรมแพลตตินั่ม อลูมิเนียม ราคาเริ่มจาก $3,300 ไปจนถึง $2,100

- Lush Carbon ตัวนี้อาจจะแพงกว่ารุ่นที่ว่ามาเพราะมันเป็นเฟรมคาร์บอน ชุดขับเคลื่อนเป็นระดับ XT รุ่นนี้ขนาดผู้ชายเห็นยังบอกว่าสวยเลยครับ ราคาค่าตัวประมาณ $5,299 ตัวนี้เป็นล้อ 26 นิ้ว

- Cali Carbon เฟรม คาร์บอน และ Cali แบบที่เป็นเฟรมโกลด์ อลูมิเนียม รุ่นนี้เป็นเสือภูเขาประเภท Hardtail หรือมีโช้คหน้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ล้อขนาด 29 นิ้ว ราคานั้นเริ่มที่ $4000 สำหรับเฟรมคาร์บอน และราคา $1600 สำหรับเฟรม โกลด์ อลูมิเนียม

Trek Skye 2013 จักรยานเสือภูเขาสำหรับผู้หญิง
Trek WSD Skye


Sport รุ่นนี้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย เป็นเสือภูเขาประเภท Hardtail ซึ่งรุ่นนี้จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นแยกย่อยนั้นก็คือ
- Skye เน้นการขับขี่ที่ง่ายดาย ควบคุมได้ง่าย และอุปกรณ์ทุกอย่างแม้กระทั่งโช้ค ก็ออกแบบมาเพื่อผู้หญิง รุ่นนี้มีราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อครับ มีราคาเริ่มต้นที่ $800-$ 400ดอลล่าร์ ขนาดล้อ 26 นิ้ว เฟรม Gold Aluminum

- 820 ตัวนี้เป็นจักรยานที่ปั่นเล่นสำหรับผู้หญิง นักปั่นน่าหน้า แต่น่าเสียดายที่เป็นเฟรมเหล็กครับ ชุดขับเคลื่อนก็ระดับล่างๆเลย ราคาก็ประมาณ $ 300

เสือภูเขาสำหรับผู้หญิง Trek Lush Singletrack Trail
Trek Lush 2013


Singletrack Trail เสือภูเขารุ่นนี้จะถูกออกแบบมาเพื่อ Single Track หรือจะนำมาใช้แบบเอนกประสงค์ก็ได้ มีน้ำหนักเบา และใช้ได้หลายประเภท เช่นปีนป่ายก็ได้ หรือปั่นในที่สาธารณะที่จำกัดความเร็วก็ย่อมทำได้ ไม่มีจักรยานอื่นใดที่จะสามารถตอบสนองการใช้งานได้หลากหลายอย่างนี้อีกแล้ว ส่วนรุ่นที่ถูกบรรจุไว้ในประเภทนี้ก็คือ รุ่น Lush ซึ่งเป็นแบบ FS นั้นเองครับ

เสือภูเขาสำหรับผู้หญิง Trek Neko 2013
Trek Neko 


Dual Sport รุ่นนี้อาจจะไม่ใช่เสือภูเขาแท้ๆครับเพราะมันคือ Hybrid เป็นลูกผสมระหว่าง เสือภูเขา กับเสือหมอบ ล้อขนาด 700 c ซึ่งจะทำความเร็วได้ดีในขณะที่ปั่นในเมือง มันมีโช้คหน้าเพื่อรองรับกับหลุมบ่อ แรงกระแทก เฟรมเป็นอลูมิเนียนออกแบบเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ เป็นจักรยานที่ซื้อทีเดียวจบ (เค้าว่างั้นครับ) รุ่นนี้ประกอบด้วยรุ่น Neko SLX ซึ่งเฟรมเป็นแบบ Alpha Gold Aluminum ราคา $1,100 ส่วนล่างสุดก็คือ Neko ธรรมดา ราคา ประมาณ $500 สเปคจะแตกต่างกันในเรื่องของชุดขับเคลื่อนหรือเกียร์เท่านั้นครับ

จักรยานเสือภูเขาสำหรับผู้หญิง Trek 2013

เวลาที่อยู่กับผู้หญิงแบบนี้ ก็สวยดีครับผมว่ามันเหมาะกับการปั่นในเมืองมากๆ ใครที่กำลังมองหาจักรยานให้แฟน ตัวนี้ก็น่าสนใจนะครับ ปั่นไปเรื่อยๆไม่เน้นลุยมากนัก หรือไม่ต้องแบบเป็นเสือภูเขาก็หาดูรุ่นอื่นๆก็ได้ครับ

หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Trek WSD

โฆษณา advertise


วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Specialized Stumpjumper HT เฟรมคาร์บอนตัวใหม่ปี 2014

โฆษณา

Specialized Stumpjumper HT carbon ปี 2014 All New carbon and aluminum hardtails


Specialized Stumpjumper HT carbon ปี 214

Specialized Stumpjumper ตัวใหม่ สำหรับปี 2014 มีทั้งเฟรม คาร์บอน และ อลูมิเนียมให้เลือกสรร


อย่างที่เคยเกริ่นไว้ในบทความก่อนๆ ของ Specialized Stumpjumper ว่าจะมีตัวฮาร์ดเทล หรือ HT มาให้ยลโฉมกัน เพราะแค่ตัว Full Suspension (FS) ก็กินเนื้อที่ไปมาก จึงต้องตัดตัวอื่นๆมาไว้ในบทความนี้ แต่จริงๆแล้ว Full sus ไม่ได้แค่ตัว Epic ยังมีตัว Camber ด้วย แล้วยังแตกยิบย่อยเป็นรุ่น Camber S-Works , Camber Expert EVO ซึ่งคิดว่า คงจะต้องเปิดเป็นอีกบทความสำหรับรุ่นนี้ เพราะก็น่าสนใจอีกเช่นกันที่จะนำมาลงให้นักอ่านนักปั่นในบ้านเราได้อ่านกัน อ้อ..ในส่วนของ Stumpjumper ยังมีรุ่นที่เรียกว่า Stumpjumper FSR 29 ด้วยนะครับ เป็นแบบ Full sus จะเห็นว่าเยอะจริงๆสำหรับ สเปเชียลไซล์

ในส่วนของ Specialized Stumpjumper HT นี้ก็ได้รับการปรับปรุงตัวเฟรมให้มีเทคโนโลยีเหมือนๆกับ New Epic เน้นเรื่องน้ำหนักที่ต้องเบา, ควบคุมได้ง่าย, และชุดขับเคลื่อนก็ต้องดี นับว่าจะต้องเป็นรุ่นที่นักปั่นฮาร์ดเทลจะต้องพิจารณาและยอมรับในเรื่องประสิทธิภาพเลยทีเดียว นอกจากจะโดดเด่นเรื่องเฟรมแล้ว การร้อยสายเคเบิ้ลทั้งสายเบรก หรือ ตีนผีจะร้อยเข้าไปเฟรมดูเรียบร้อยมาก และไม่เกะกะเวลาลุย

Specialized Stumpjumper ตัวใหม่ สำหรับปี 2014

Specialized SWAT 2014


Swat tool kit

อีกอย่างที่ไม่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ นั้นคือ SWAT ที่เป็นเก็บของ ไม่ว่าจะเป็นขวด หรือ อะไหล่ต่างๆ ที่สามารถเก็บไว้กล่องดำๆใต้ที่ไว้ขวด ซึ่งรุ่นปี 2013 จะมีไม่กล่องเก็บของพวกนี้นะครับ โดยรุ่น Stumpjumper นี้จะแบ่งเป็นรุ่นๆดังนี้ครับ

Specialized S-Works Stumpjumper Carbon 29er รุ่นท้อปของ HT หรือ ฮาร์ดเทล

รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ท้อปสุดด้วยคาร์บอนเฟรม ที่มีน้ำหนักเพียง 1,050 กรัม หรือประมาณ 1 กิโลกรัมเท่านั้น เรียกได้ว่าสุดยอดครับน้ำหนักเบามากในความคิดผม อีกอย่างนี่คงเป็นข้อได้เปรียบของ Specialized เพราะว่าในปี 2014 ทาง Specialized ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เกือบครึ่งโหล ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ รวมถึงการแข่งขันระดับโลก ที่ได้ใช้รหัส World Cup กับระบบขับเคลื่อน Sram 1x11 Drivetrains นอกจากนี้ยังมีรุ่น Stumpjumper Comp Carbon และ women's specific Fate models ที่ใช้เฟรมคาร์บอนภายใต้เทคโนโลยีเดียวกัน

STUMPJUMPER EXPERT CARBON HT WORLD CUP

และอีกอย่างสำหรับรุ่นนี้จะมีรุ่นที่เป็นขาตะเกียบคาร์บอน คือไม่มีโช้คทั้งหน้าและหลัง แต่ทางทีมวิศวกรก็บอกว่าเค้าคิดค้นวิจัยกันมาอย่างดีแล้วในเรื่องแรงกระแทก และนอกจากนี้ยังสามารถจะเปลี่ยนมาเป็นโช้คได้ในภายหลังครับ

รายชื่อของรุ่น Specialized Stumpjumper ที่วางจำหน่ายในปี 2014

· S-WORKS STUMPJUMPER HT WORLD CUP ราคา $7,800
· S-WORKS STUMPJUMPER HT ราคา $7,800
· STUMPJUMPER MARATHON CARBON HT ราคา $5,500
· STUMPJUMPER EXPERT CARBON HT WORLD CUP ราคา $5,000
· STUMPJUMPER EXPERT CARBON HT ราคา $ 5,000
· STUMPJUMPER COMP CARBON HT ราคา $2,700
· STUMPJUMPER EVO HT alloy frame ราคา $2,300
· STUMPJUMPER COMP HT aluminum frame ราคา $2,000
· STUMPJUMPER CARBON HT SINGLE SPEED ราคา $4,400
· S-WORKS STUMPJUMPER HT FRAMESET 11m carbon เฟรมราคา $3,400
· STUMPJUMPER HT SINGLE SPEED FRAMESET เฟรมคาร์บอน ราคา $ 2,000

ดูรายละเอียด สเปค หรือ อื่นๆ เพิ่มเติมได้เลยครับที่เวบไซต์ของ Specialized

STUMPJUMPER CARBON HT SINGLE SPEED

ผมอาจจะเชยก็ได้ครับ เพราะเพิ่งเห็นจักรยานเสือภูเขาแบบ Single speed ไม่มีชุดเกียร์อะไรเลยเหมือนกับจักรยานธรรมดา หน้าจานเดียว หลังจานเดียว แต่เจ้าพระคุณ ราคาตั้ง $4,400 หรือ คูณด้วย 31 บาท ก็ราวๆประมาณ 136,400 บาท

ดูจากรูปบนนะครับ จานหน้าและจานหลังจะมีแค่อย่างละจานคล้ายจักรยานธรรมดา หรือจะเรียกว่ามันไม่มีเกียร์เลยก็ว่าได้ อาศัยว่าเฟรมดีอุปกรณ์อื่นๆดีเท่านั้นเองครับ ผมไม่แน่ใจว่าปั่นแล้วจะเหนื่อยมากไหม

ส่วนรุ่น Crave ที่บอกไว้ขอติดไว้คราวหน้านะครับ

โฆษณา advertise

วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

รีวิวจักรยานเสือภูเขา Specialized S-Works Epic World Cup 2014 ตัวแข่งระดับโลก

โฆษณา

จับตามองเสือภูเขา Specialized S-Works Epic World Cup 2014 ตัวใหม่ที่ราคาแพงแสนแพง

รีวิวจักรยานเสือภูเขา Specialized S-Works Epic World Cup 2014 ตัวแข่งระดับโลก

Specialized S-Works Epic World Cup 2014 ไม่ใช่เสือภูเขาสำหรับมือใหม่หรือออกกำลังกายชิวๆ แต่มันเกิดมาเพื่อเป็นแชมป์และแข่งขันเท่านั้น

อย่างที่เคยรับปากไว้ว่าจะเอาตัว Specialized S-Works Epic World Cup 2014 เสือภูเขาราคา $10,500 หรือราคาประมาณ 3 แสนกว่าบาท แต่เมื่อเห็นรูปทรง การออกแบบแล้วมันก็ช่างสวยงามเหลือเกินเหลือกิน สีขาวโดนใจมากๆ สังเกตดูนะครับว่า ตัวแข่งระดับท้อป ปีหน้า ท่อบนจะเรียวๆหน่อย ดูเหมือนจะหักง่าย แต่ไม่หัก เพราะทีมวิศวกรจะออกแบบมุมสักมุม ให้รับน้ำหนักหรือถ่ายเทน้ำหนักมายังโช้ค และลงไปที่ล้อได้อย่างชาญฉลาด

สำหรับรุ่น Epic World cup ยังกะจะไปแข่งบอลโลก แต่ถ้าจะเปรียบเปรยก็คล้ายๆกับทีมสุดเจ๋งที่เข้าแข่งขันบอลโลกได้ประมาณนั้น แบบว่าถ้าไม่เจ๋งจริงคงไม่ตั้งชื่อนี้ เมื่อเจาะลึกไปในรายละเอียดแล้ว รถรุ่นนี้ Epic World cup ถูกสร้างมาเพื่อการแข่งขันโหด หนัก และระยะสั้นๆ ซึ่งต่างจากรุ่น Epic standard ที่สามารถลงแข่งได้ทั้งวัน ทุกประเภท ทุกชนิดประเภทแบบมาราธอนมันก็ยังสบายๆ

Spcecialized s-works Epic World cup มาพร้อมกับโช้คอัพหน้า-หลังที่มีระยะปรับเพียง 95 มิลลิเมตร จากปกติจะใช้ 100 มิลลิเมตร จากการทดสอบที่โคโลราโด แม้จะเป็นทางเรียบหรือขุรขระ มันก็ไม่มีปัญหาในการปรับเซต และผลการทดสอบก็ยังเป็นตัวบ่งบอกว่ามันดูจะเหนือกว่าจักรยานทางเรียบรุ่นอื่นๆด้วยซ้ำไป เพราะมันถูกออกแบบมาให้รองรับการแรงกระทบกระเทือน กระแทกกระทั้นอย่างเหนือระดับ ไม่ว่าคุณจะปั่นมันไปทางไหน มันจะพยายามทำงานตามหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่และสุดความสามารถเลยทีเดียว จุดเด่นน่าจะเป็นตัว Brain Fade Setting ที่ให้ความนุ่มนวลหลายระดับ ตามแต่คุณจะปรับเซต ตัวปรับหรือวาล์วจะตอบสนองทันที่ที่เปิดมัน (เรียกได้ว่าระบบโช้คของเค้ามันเจิดมาก)

Specialized Epic Carbon 2014 เสือภูเขาราคาแพง

เทรนโดดเด่นที่สุดขาดไม่ได้เลยคือ 1x drivetrain หรือ single-ring drivetrain system ที่ถูกบรรจุมาใน Spcecialized s-works Epic World cup แตกต่างล่ะ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า Spcecialized s-works Epic World cup จะถูกออกแบบมาอย่างดี ทุกอย่างแลดูใหม่หมด ไม่ว่าจะเป็นเฟรมคาร์บอน FACT IS 11M มีการเชื่อมต่อที่สุดยอด พร้อมกับที่ใส่ขวดน้ำ 2 ขวด พร้อมกับ SWAT set (Storage, Water, Air, Tools), สายเคเบิ้ลซ่อนภายใน เพียงแค่เฟรมก็สุดยอดแล้วว่ามันรวดเร็ว มีน้ำหนักเบา รับแรงกระแทกได้ดี มันเป็นเฟรมรูปแบบใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับนักปั่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันได้ผสมผสานกับ 1x drivetrain หรือ จานหน้า 1 จาน ซึ่งจานชนิดนี้กำลังฮอตฮิตในต่างประเทศครับ (เดียวผมจะเอาเรื่องนี้มาลงเต็มๆเลย) กำลังขับที่ได้มันจะให้ความรู้สึกว่าเราปั่นเสือภูเขาแบบ Hardtail (ต้องบอกว่า ฟิลลิ่งของปั่นฮาร์ดเทลนั้น มันจะมีแรงส่งมากกว่าแบบ ฟูลซัสนะครับ) ข้อดีของมันคือ เบาครับ, ดูแลง่าย ไม่ง่ายได้ไง ก็มันมีแค่จานเดียวคล้ายกับจักรยานแม่บ้าน หรือ BMX

Specialized S-Works Epic World Cup 2014


ใหม่ล่าสุด Specialized S-Works Epic World Cup 2014

บวกกับ SRAM's XX1 ตัวท้อปซึ่งในรีวิวของต่างชาติต่างยอมรับว่ามันสุดยอดมาก การเปลี่ยนเกียร์ นุ่มนวลและราบรื่น ไม่มีเสียง ส่วนจานหลังขนาด 42 ฟัน ทำให้ขึ้นเขา ปีนป่ายได้ดีไม่มีปัญหา
สรุปว่าอะไรๆมันก็ดีหมด ยังไม่พอครับ เบครไฮดรอริค ดิสเบรค Magura MT8 มันทำมาจากคาร์บอนทั้งหมด ทั้งตัวโยกเบรกหรือแม้กระทั่ง คาลิเปอร์ ผมดูแล้ว ดูอีกว่าผมแปลผิดไหม เข้าใจถูกหรือเปล่า? แต่อ่านซ้ำไปซ้ำมา มันก็ยังเป็นคาร์บอนอยู่ดี สาเหตุที่เป็นคาร์บอนเพราะมันเบา แต่เรื่องเบรกเค้าบอกว่ามันงั้นๆ ยังไม่ประทับใจเท่าที่ควร (เริ่มมีข้อเสียบ้างแล้ว)
 

แต่ถ้าคุณไม่ใช่นักแข่ง ก็มีรุ่นธรรมดาราคาไม่แพงมากนักอย่าง Specialized Epic FSR Comp Carbon


แล้วถ้าเราไม่ได้ต้องการจักรยานเพื่อลงแข่งในรายการสูงล่ะ แค่อยากปีนเขาบ้าง ลุยโคลนบ้าง กระโดดนิดหน่อย มันเป็นไปได้บ้างไหมถ้าจะมี Specialized Epic สักคันไว้ในครอบครอง ไม่ต้องห่วงครับ เพราะในสายการผลิตของ Specialized Epic มีหลายรุ่นมาก ที่เป็นรุ่นมาตรฐานหรือสแตนดาร์ดก็มี แต่มันไม่ใช่เฟรมคาร์บอนนะครับ เป็นอลูมิเนียม และอาจจะมีคาร์บอนผสมอยู่บ้าง บางส่วน มันมีน้ำหนักเบาอยู่บ้างประมาณ ครึ่งปอนด์ และก็มีฟังก์ชั่นบางอย่างคล้ายกับรุ่นเฟรมคาร์บอน อีกอย่างที่จะไม่มีก็คือ ตัว BRAIN fork หรือตัวปรับโช้คหลัง การขาดฟังก์ชั่นนี้อาจจะทำให้มันมีฟิลลิ่งที่แตกต่างไปจากตัวคาร์บอน ถ้าใครที่เคยปั่นคาร์บอนและใช้ตัว Brain นี้อยู่ อาจจะรู้สึกว่า มันไม่สมดุลหรือขาดบาลานซ์ แต่ถ้าใครที่ไม่เคยใช้ Brain ก็จะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างนี้มากนัก เพราะอย่างไรมันก็มีทั้งโช้คหน้า – หลังอยู่แล้ว ถ้าปรับโช้คดีๆ ก็ช่วยได้

อีกอย่างสิ่งที่ผมอ่านเจอบ่อยมากนั้น คำชมเชยระบบโช้คอัพของ Specialized มากๆ เค้ายอมรับในคุณภาพเลยว่า มันราบรื่น การปรับแต่งก็ไม่ยาก พระเอกก็คือตัว Brain นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักที่เบาเพราะรูปร่างจะเล็กกว่ารุ่นก่อน อ้อ โช้คที่ใช้คือ RockShox แถมยังมีบริการปรับโช้คให้กับลูกค้าด้วย เพียงส่งโช้คของตัวเองไปที่ศูนย์บริการ(แล้วก็รอมันนานทีเดียวกว่าจะได้รับมันคืน)

สำหรับแฟน Hardtail ต้องจับตามองตัว S-Work Stumpjumper All new carbon frame อีกตัวก็คือ Specialized Crave ซึ่งคราวหน้าผมจะเอามาให้ยลโฉมกัน ราคาค่าตัวก็ไม่เบาเลย $ 7,800 เหรียญ ก็ประมาณ 2 แสนกว่าๆเองครับ สรุปว่า ละลานตาครับสำหรับปีหน้า

specialized S-Work Stumpjumper ปี 2014


SBC GPL Copper Mtn 2013 
ลำดับราคา Specialized Epic ปี 2014
S-Works Epic FSR Carbon: $10,500
S-Works Epic FSR Carbon Frameset: $5,500
S-Works Epic FSR Carbon World Cup: $10,500
S-Works Epic FSR Carbon World Cup Frameset: $5,500
Epic FSR Mth Carbon: $7,250
Epic FSR Expert Carbon: $6,300
Epic FSR Expert Carbon World Cup: $6,750
Epic FSR Comp Carbon: $4,200
Epic FSR Comp: $3,300
ราคาเฉพาะเฟรม: $5,500

โฆษณา advertise