จับตามองเสือภูเขา Specialized S-Works Epic World Cup 2014 ตัวใหม่ที่ราคาแพงแสนแพง
Specialized S-Works Epic World Cup 2014 ไม่ใช่เสือภูเขาสำหรับมือใหม่หรือออกกำลังกายชิวๆ แต่มันเกิดมาเพื่อเป็นแชมป์และแข่งขันเท่านั้น
อย่างที่เคยรับปากไว้ว่าจะเอาตัว Specialized S-Works Epic World Cup 2014 เสือภูเขาราคา $10,500 หรือราคาประมาณ 3 แสนกว่าบาท แต่เมื่อเห็นรูปทรง การออกแบบแล้วมันก็ช่างสวยงามเหลือเกินเหลือกิน สีขาวโดนใจมากๆ สังเกตดูนะครับว่า ตัวแข่งระดับท้อป ปีหน้า ท่อบนจะเรียวๆหน่อย ดูเหมือนจะหักง่าย แต่ไม่หัก เพราะทีมวิศวกรจะออกแบบมุมสักมุม ให้รับน้ำหนักหรือถ่ายเทน้ำหนักมายังโช้ค และลงไปที่ล้อได้อย่างชาญฉลาดสำหรับรุ่น Epic World cup ยังกะจะไปแข่งบอลโลก แต่ถ้าจะเปรียบเปรยก็คล้ายๆกับทีมสุดเจ๋งที่เข้าแข่งขันบอลโลกได้ประมาณนั้น แบบว่าถ้าไม่เจ๋งจริงคงไม่ตั้งชื่อนี้ เมื่อเจาะลึกไปในรายละเอียดแล้ว รถรุ่นนี้ Epic World cup ถูกสร้างมาเพื่อการแข่งขันโหด หนัก และระยะสั้นๆ ซึ่งต่างจากรุ่น Epic standard ที่สามารถลงแข่งได้ทั้งวัน ทุกประเภท ทุกชนิดประเภทแบบมาราธอนมันก็ยังสบายๆ
Spcecialized s-works Epic World cup มาพร้อมกับโช้คอัพหน้า-หลังที่มีระยะปรับเพียง 95 มิลลิเมตร จากปกติจะใช้ 100 มิลลิเมตร จากการทดสอบที่โคโลราโด แม้จะเป็นทางเรียบหรือขุรขระ มันก็ไม่มีปัญหาในการปรับเซต และผลการทดสอบก็ยังเป็นตัวบ่งบอกว่ามันดูจะเหนือกว่าจักรยานทางเรียบรุ่นอื่นๆด้วยซ้ำไป เพราะมันถูกออกแบบมาให้รองรับการแรงกระทบกระเทือน กระแทกกระทั้นอย่างเหนือระดับ ไม่ว่าคุณจะปั่นมันไปทางไหน มันจะพยายามทำงานตามหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่และสุดความสามารถเลยทีเดียว จุดเด่นน่าจะเป็นตัว Brain Fade Setting ที่ให้ความนุ่มนวลหลายระดับ ตามแต่คุณจะปรับเซต ตัวปรับหรือวาล์วจะตอบสนองทันที่ที่เปิดมัน (เรียกได้ว่าระบบโช้คของเค้ามันเจิดมาก)
เทรนโดดเด่นที่สุดขาดไม่ได้เลยคือ 1x drivetrain หรือ single-ring drivetrain system ที่ถูกบรรจุมาใน Spcecialized s-works Epic World cup แตกต่างล่ะ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า Spcecialized s-works Epic World cup จะถูกออกแบบมาอย่างดี ทุกอย่างแลดูใหม่หมด ไม่ว่าจะเป็นเฟรมคาร์บอน FACT IS 11M มีการเชื่อมต่อที่สุดยอด พร้อมกับที่ใส่ขวดน้ำ 2 ขวด พร้อมกับ SWAT set (Storage, Water, Air, Tools), สายเคเบิ้ลซ่อนภายใน เพียงแค่เฟรมก็สุดยอดแล้วว่ามันรวดเร็ว มีน้ำหนักเบา รับแรงกระแทกได้ดี มันเป็นเฟรมรูปแบบใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับนักปั่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันได้ผสมผสานกับ 1x drivetrain หรือ จานหน้า 1 จาน ซึ่งจานชนิดนี้กำลังฮอตฮิตในต่างประเทศครับ (เดียวผมจะเอาเรื่องนี้มาลงเต็มๆเลย) กำลังขับที่ได้มันจะให้ความรู้สึกว่าเราปั่นเสือภูเขาแบบ Hardtail (ต้องบอกว่า ฟิลลิ่งของปั่นฮาร์ดเทลนั้น มันจะมีแรงส่งมากกว่าแบบ ฟูลซัสนะครับ) ข้อดีของมันคือ เบาครับ, ดูแลง่าย ไม่ง่ายได้ไง ก็มันมีแค่จานเดียวคล้ายกับจักรยานแม่บ้าน หรือ BMX
บวกกับ SRAM's XX1 ตัวท้อปซึ่งในรีวิวของต่างชาติต่างยอมรับว่ามันสุดยอดมาก การเปลี่ยนเกียร์ นุ่มนวลและราบรื่น ไม่มีเสียง ส่วนจานหลังขนาด 42 ฟัน ทำให้ขึ้นเขา ปีนป่ายได้ดีไม่มีปัญหา
สรุปว่าอะไรๆมันก็ดีหมด ยังไม่พอครับ เบครไฮดรอริค ดิสเบรค Magura MT8 มันทำมาจากคาร์บอนทั้งหมด ทั้งตัวโยกเบรกหรือแม้กระทั่ง คาลิเปอร์ ผมดูแล้ว ดูอีกว่าผมแปลผิดไหม เข้าใจถูกหรือเปล่า? แต่อ่านซ้ำไปซ้ำมา มันก็ยังเป็นคาร์บอนอยู่ดี สาเหตุที่เป็นคาร์บอนเพราะมันเบา แต่เรื่องเบรกเค้าบอกว่ามันงั้นๆ ยังไม่ประทับใจเท่าที่ควร (เริ่มมีข้อเสียบ้างแล้ว)
แต่ถ้าคุณไม่ใช่นักแข่ง ก็มีรุ่นธรรมดาราคาไม่แพงมากนักอย่าง Specialized Epic FSR Comp Carbon
แล้วถ้าเราไม่ได้ต้องการจักรยานเพื่อลงแข่งในรายการสูงล่ะ แค่อยากปีนเขาบ้าง ลุยโคลนบ้าง กระโดดนิดหน่อย มันเป็นไปได้บ้างไหมถ้าจะมี Specialized Epic สักคันไว้ในครอบครอง ไม่ต้องห่วงครับ เพราะในสายการผลิตของ Specialized Epic มีหลายรุ่นมาก ที่เป็นรุ่นมาตรฐานหรือสแตนดาร์ดก็มี แต่มันไม่ใช่เฟรมคาร์บอนนะครับ เป็นอลูมิเนียม และอาจจะมีคาร์บอนผสมอยู่บ้าง บางส่วน มันมีน้ำหนักเบาอยู่บ้างประมาณ ครึ่งปอนด์ และก็มีฟังก์ชั่นบางอย่างคล้ายกับรุ่นเฟรมคาร์บอน อีกอย่างที่จะไม่มีก็คือ ตัว BRAIN fork หรือตัวปรับโช้คหลัง การขาดฟังก์ชั่นนี้อาจจะทำให้มันมีฟิลลิ่งที่แตกต่างไปจากตัวคาร์บอน ถ้าใครที่เคยปั่นคาร์บอนและใช้ตัว Brain นี้อยู่ อาจจะรู้สึกว่า มันไม่สมดุลหรือขาดบาลานซ์ แต่ถ้าใครที่ไม่เคยใช้ Brain ก็จะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างนี้มากนัก เพราะอย่างไรมันก็มีทั้งโช้คหน้า – หลังอยู่แล้ว ถ้าปรับโช้คดีๆ ก็ช่วยได้
อีกอย่างสิ่งที่ผมอ่านเจอบ่อยมากนั้น คำชมเชยระบบโช้คอัพของ Specialized มากๆ เค้ายอมรับในคุณภาพเลยว่า มันราบรื่น การปรับแต่งก็ไม่ยาก พระเอกก็คือตัว Brain นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักที่เบาเพราะรูปร่างจะเล็กกว่ารุ่นก่อน อ้อ โช้คที่ใช้คือ RockShox แถมยังมีบริการปรับโช้คให้กับลูกค้าด้วย เพียงส่งโช้คของตัวเองไปที่ศูนย์บริการ(แล้วก็รอมันนานทีเดียวกว่าจะได้รับมันคืน)
สำหรับแฟน Hardtail ต้องจับตามองตัว S-Work Stumpjumper All new carbon frame อีกตัวก็คือ Specialized Crave ซึ่งคราวหน้าผมจะเอามาให้ยลโฉมกัน ราคาค่าตัวก็ไม่เบาเลย $ 7,800 เหรียญ ก็ประมาณ 2 แสนกว่าๆเองครับ สรุปว่า ละลานตาครับสำหรับปีหน้า
ลำดับราคา Specialized Epic ปี 2014
S-Works Epic FSR Carbon: $10,500
S-Works Epic FSR Carbon Frameset: $5,500
S-Works Epic FSR Carbon World Cup: $10,500
S-Works Epic FSR Carbon World Cup Frameset: $5,500
Epic FSR Mth Carbon: $7,250
Epic FSR Expert Carbon: $6,300
Epic FSR Expert Carbon World Cup: $6,750
Epic FSR Comp Carbon: $4,200
Epic FSR Comp: $3,300
ราคาเฉพาะเฟรม: $5,500
โฆษณา advertise
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น