มาอัพเกรดเสือภูเขาโดยการเปลี่ยนอุปกรณ์บางอย่าง ซึ่งแต่ละอย่างไม่เกิน 3000 บาทกันดีกว่า
สำหรับจักรยานเสือภูเขาแล้วเมื่อใช้ไปสักระยะเวลาหนึ่งแน่นอนว่าอาจจะมีอะไหล่หรืออุปกรณ์บางอย่างที่มันชำรุด แต่สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการจะซื้อจักรยานใหม่หรืองบเงินเป็นก้อนเพื่อเปลี่ยนระบบเกียร์หรือเฟื่องใหม่ๆรุ่นสูง หรืออาจจะเปลี่ยนเฟรมคาร์บอนน้ำหนักเบา หรือเปลี่ยนล้อคาร์บอนสวยๆ สิ่งเหล่านี้เกินงบประมาณที่มีอยู่ใช่ไหม
ดังนั้นเราจะมานำเสนอ อุปกรณ์ 10 อย่างซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพของจักรยานของคุณ
อย่าได้ดูถูกอุปกรณ์เหล่านี้ที่เราจะแนะนำให้คุณอัพเกรดเพราะมันจะมีส่วนให้ทำให้การขับขี่ของคุณสมบูรณ์แบบมากขึ้น โดยงบประมาณ ชิ้นละไม่เกิน 3000 บาท (ชิ้นละนะครับ) มาเริ่มกันเลยดีกว่า
1. ยางจักรยานเสือภูเขาใหม่
แน่นอนว่าจักรยานจะต้องมียางมาให้ เมื่อเราซื้อเสือภูเขามาใหม่ก็ต้องมาพร้อมกับยาง แต่เนื่องจากยางเป็นอุปกรณ์ส่วนหนึ่งของจักรยานที่สัมผัสกับพื้น ดังนั้นยางที่คุณใช้สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากสำหรับการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
มีปัญหาสองประการที่อาจทำให้คุณต้องซื้อยางจักรยานเสือภูเขาใหม่:
1. คุณอาจจะใช้ยางผิดประเภทอยู่มันอาจจะไม่เหมาะกับสภาพพื้นผิวแถวบ้านคุณหรือในสนามที่คุณใช้เป็นประจำ เพราะว่ายางที่มากับรถจักรยานอาจจะมีคุณภาพต่ำ (เพื่อลดค่าใช้จ่ายของบริษัทเจ้าของแบรนด์หรืออะไรก็ตาม) และมักจะเป็นการเฉลี่ยโดยรวมว่าสถานที่ที่ลูกค้าจะนำไปใช้สามารถจะใช้ได้กับทุกๆที่
ในความเป็นจริง พื้นที่หนึ่งกับพื้นที่หนึ่งจะไม่อาจนำมาเฉลี่ยได้เลย เช่น องค์ประกอบของดิน, ระดับความชื้นและตัวแปรอื่นๆ ที่แตกต่างกัน บางทียางสต็อกที่มากับจักรยานเสือภูเขาอาจจะทำงานได้ดีสำหรับคุณก็ได้ แต่บางทีก็ต้องยอมรับว่าอาจจะไม่ หากคุณไม่มีดอกยางและยางที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่ของคุณถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรับเปลื่ยนมัน
2. เมื่อสังเกตได้อย่างชัดเจนว่าดอกยางได้สึกหรือใกล้จะลบเลือนไปหมดแล้ว
งบประมาณในการเปลี่ยนยางเส้นใหม่นี้ ถ้าคุณช้อปทางออนไลน์ คุณก็อาจจะได้ราคาที่ไม่ถึง 3000 พัน แต่ถ้าคุณต้องให้มีคุณภาพที่ดีหน่อยน้ำหนักเบา จะเกินงบ เราก็ไม่ได้ว่าคุณหรอก (แต่เกรดดีบ้านเราก็ราคาประมาณ 1,500 บาท
2. เปลี่ยนเป็น Tubeless
อย่างที่เราได้เคยกล่าวไปแล้วในบทความที่ผ่านมาสำหรับ Tubeless หรือการใส่ยางแบบไม่ใช่ยางในนั่นเอง ซึ่งมันก็มีข้อถกเถียงกันอย่างมาก เพราะบางคนก็ยังรู้สึกว่า ยางรถจะต้องมียางในสิ ถ้าไม่มียางในแล้วมันปลอดภัยหรือไม่ แต่...ในที่นี้ สำหรับคนที่ชอบปั่นบนภูเขาที่มีหินคมๆ เราแนะนำให้คุณลองเปลี่ยนมาใช้แบบ ไม่ยางในนี้ มันจะช่วยให้คุณไม่ต้องเสี่ยงกับยางรั่วเมื่อมีการกระทบโขดหรือแง่หิน
มันไม่สนุกหรอกที่เราจะต้องมาจูงรถเพื่อปะยาง หรือว่าขี่บดไปเรื่อยๆ ในกรณีที่แรงดันลมอ่อน Tubeless ก็ยังสามารถปั่นไปได้อยู่ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลามากนัก หรือ สำหรับบางคนที่ชอบปั่นจักรยานแบบลมอ่อนๆไม่ต้องแข็งมาก อันนี้ก็เหมาะมาก
3. เปลี่ยน Grips
ตามกฎทั่วไปส่วนประกอบบางส่วนที่สำคัญที่สุดบนจักรยานเสือภูเขาของคุณคือจุดติดต่อหรือสัมผัส - IE ซึ่งร่างกายของคุณจะสัมผัสติดต่อกับจักรยาน นอกจากนี้ยางที่กล่าวถึงใน # 1 และ # 2 ที่จะต้องมีการสัมผัสกับพื้นดินแล้ว ดังนั้นพวกมันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งเช่นกัน
อย่างไรก็ตามจุดสัมผัสเหล่านี้มักถูกมองข้ามเมื่อคุณจะซื้อของและอัพเกรดจักรยานแม้ว่าราคาจะไม่แพงก็ตาม การเลือก Grips ที่เหมาะสมและเข้ากับสไตล์การขับขี่ของคุณก็สามารถเปลี่ยนโลกได้เหมือนกัน ดังนั้นผมขอแนะนำให้คุณลองใช้รูปแบบที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่ประมาณ 100 กว่าบาท สำหรับ Grips ที่ดีเยี่ยมจริงๆ นี่เป็นราคาที่ไม่แพงนัก
แนะนำเล็กน้อย: สำหรับคนที่ชอบปั่นแบบ cross country ผมแนะนำให้ลองที่จับยี่ห้อ Ergon สำหรับการกระจายน้ำหนักและความสะดวกสบาย อย่างไรก็ตามหากคุณชอบแบบ technical descending การใช้ด้ามจับแบบกลมจะดีกว่า เลือกใช้ด้ามจับ Oury ซึ่งมีช่องระบายอากาศที่ดีในรูปแบบทรงกลม และมีความหนาสักหน่อย
4. เปลี่ยนบันได (Pedals and/or Cleats)
บันไดจะมีอยู่ 2 ประเภท แบบ clipless หรือ flats ซึ่งก็เหมือนกับชิ้นส่วนอื่นๆของจักรยานเสือภูเขา ก็คือ มันสึกหรอได้ จุดสัมผัสที่เราบอกไปแล้วจากข้อ 3 มีความสำคัญ แต่มักถูกมองข้าม ราคาของบันไดนั้นอาจจะมีราคามากกว่า 3 พันบาทได้ แต่ถ้าไม่ต้องเลือกใช้แบบน้ำหนักเบามากๆ คุณก็จะได้ของดีราคาถูกเช่นกัน
หากคุณซื้อ pedals แบบ clipless คู่ใหม่ ก็ต้องเผื่อเงินไว้ซื้อ cleats อันใหม่ที่เข้ากันไว้สำรองด้วยเพื่อที่จะเอาไว้เปลี่ยนกับอันเก่าที่มีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามบางครั้งสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อให้ชุดเหยียบเก่ารู้สึกใหม่ คือ การเปลี่ยนรองเท้าที่ชำรุดของคุณ
5. เปลี่ยนเบาะรองนั่งหรืออานใหม่ (Mountain Bike Saddle)
อานจักรยานเป็นสิ่งของที่ส่วนตัวมากๆ อานที่มากับรถก็อาจจะดีสำหรับคุณ หรือ อาจจะไม่เข้ากับสรีรร่างกายของคุณ การหาอานที่เหมาะอย่างถูกต้องสามารถสร้างโลกแห่งความแตกต่างได้ การมองหาอานที่ออกแบบมาไม่หนักไม่เบาจนเกิน ก็มีราคาที่ไม่เกินงบประมาณที่ตั้งไว้
6. อัพเกรดสตรีม (Stem)
ประโยชน์ของสตรีม ก็คือ สตรีมที่สั้นลงช่วยลดการเข้าถึงหรือระยะเอื้อมถึงของคุณ เพื่อให้คุณสามารถตอบสนองได้เร็วขึ้นและควบคุมหน้ารถได้ดียิ่งขึ้น downhill bikes จำนวนมากจะมีสตรีมขนาดเล็ก 40-50 มิลลิเมตร และสตรีมของจักรยานเสือภูเขาแบบ trail bikes มักอยู่ระหว่าง 60-80 มม. ส่วน cross-country bikes มักมีสตรีม อยู่ในช่วง 100-120 มม.
ขึ้นอยู่กับชนิดของการขับขี่คุณ คุณควรจะมีปัญหาในการหาสตรีมในช่วงความยาวที่เหมาะสมนี้ โดยจะต้องอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ด้วย และอาจเพิ่มงบถ้าต้องการแบบคาร์บอน
7. เปลี่ยน Handlebars
เช่นเดียวกับการเปลี่ยนสตรีมของคุณ การเปลี่ยน Handlebars ของคุณอาจส่งผลกระทบต่อการควบคุมและความคล่องแคล่วของจักรยานเสือภูเขาของคุณ มือจับบางตัวเหมาะสำหรับการขี่ได้ดีโดยต้องใช้ปัจจัยต่างๆนอกเหนือจากราคา เช่น ความกว้าง, เส้นผ่าศูนย์กลาง การยึดและการกวาด
8. เปลี่ยนโรเตอร์จานหน้าขนาดใหญ่ Larger Front Rotor
ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับการหยุดรถ อะไรคือปัญหาที่แท้จริง? คุณจะต้องเปลี่ยนเบรคใหม่ทั้งชุด? เปลี่ยนผ้าเบรคใหม่? ผมพบว่าการเปลี่ยนโรเตอร์จานหน้าให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นจะช่วยให้คุณพ้นจากปัญหานี้ และมีอำนาจในการหยุดรถได้ตามที่ต้องการได้ดีขึ้น
9. นำไปปรับจูน (Get a Tune Up)
มีหลายวิธีที่จักรยานเสือภูเขาสามารถเสื่อมสภาพได้ มันอาจจะทำให้คุณรู้สึกหดหู่เพียงเล็กน้อย แต่ถ้าคุณต้องการทำให้มันกลับดีขึ้นก็สามารถทำได้ หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่คุณสามารถลงทุนเงินของคุณ คือการรักษามาตรฐานการดูแลรักษาจักรยานเสือภูเขาให้อยู่ในระดับมาตรฐานอยู่เสมอ
นอกจากจะได้รับการปรับแต่งอย่างเต็มที่โดยมืออาชีพ (ซึ่งอาจอยู่ภายใต้ 3000 บาท หรืออาจจะไม่ได้) ต่อไปนี้เป็นองค์ประกอบที่แตกต่างกันซึ่งต้องการการบำรุงรักษาที่น้อย แต่อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านประสิทธิภาพ:
- สายเคเบิ้ลทั้งหมด หากคุณปั่่นจักรยาน แล้วรู้สึกว่าการสับเปลี่ยนเกียร์มันไม่ดีนัก ในกรณีนี้ถ้าคุณไม่เคยเปลี่ยนสายเคเบิ้ล (สายเบรคสายเกียร์) ผมแนะนำให้คุณเปลี่ยนมันด่วน ราคาไม่ถึง 1000 บาท คุณก็จะได้รถจักรยานที่เหมือนใหม่
- เบรค: บางครั้งการเบรกอย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดสิ่งไม่คาดฝันกับระบบเบรคของคุณได้ นอกจากนี้การเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ หรือเปลี่ยนทั้งชุดก็จะช่วยให้คุณรู้สึกได้ถึงความแตกต่างที่ดีไปจากเดิมได้
- ระบบช้อคอัพ (Suspension) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับการบำรุงรักษาตามปกติสำหรับชุด Suspension ของคุณ หากคุณละเลยการบำรุงรักษาและรู้สึกว่าการรองรับแรงกรแทกไม่ได้เรื่องแล้วล่ะก็ คำตอบก็มีอยู่แล้ว
- ระบบกระโหลก (Bottom brackets): ระบบพวกนี้ต้องการการดูแลเอาใจใส่จะต้องทำความสะอาดใส่จาระบีเป็นประจำ ถ้าคุณได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่เหยียบบันไดแสดงว่าคุณจะต้องพามันไปจัดการทำความสะอาด หากไม่มีความรู้ควรนำไปให้ช่างดูแล
นี่เป็นเพียงคำแนะนำบางประการสำหรับการอัปเกรดที่ไม่แพงซึ่งสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของจักรยานเสือภูเขาได้ดีขึ้น อาจจะไม่ต้องเปลี่ยนทั้งหมดที่บอกมานะครับ เปลี่ยนบางตัวที่ดูแล้วน่าจะสึกหรอหรือใช้งานไม่ดีนักก็ได้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น