จักรยานเสือภูเขาปี 2018 New SPECIALIZED EPIC
Specialized มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการแข่งรถแบบ cross-country เริ่มจาก Ned Overend ได้รับชัยชนะแชมป์โลกครั้งแรกในปี 1990 จนมาถึง Jaroslav Kulhavý ที่เข้าสู่เส้นชัยได้รับเหรียญทองโอลิมปิค
และต่อมาอีกไม่นาน Annika Langvad และ Sam Gaze ก็ได้รับรางวัล Rainbow Stripes ในสาธารณรัฐเช็ก ก็นับได้ว่า The Epic เป็นจักรยานเสือภูเขาที่ครองถ้วยแชมป์โลก, เหรียญทองโอลิมปิค และชนะมาได้หลายสนาม และทาง Specialized ก็ยังคงปรับปรุงค้นหาวิธีที่จะทำให้เครื่องจักรตัวนี้มุ่งสู่ชัยชนะที่มากขึ้นไปอีก และ The 2018 Epic นี้ก็จะยังคงความเบา, ชาญฉลาดและเร็วกว่าที่เคยเป็นมา
Lighter (ความเบาที่เหนือกว่า)
- ตอนนี้ S-Works Epic มีกรอบที่มีน้ำหนักเบาซึ่งเบากว่าปีที่แล้ว ประมาณ 345 กรัม และแบบ Non S-Works frames หรือที่ไม่ใช่เฟรม S-Works จะมีน้ำหนักที่ 525 กรัม (มากกว่าหนึ่งปอนด์) ซึ่งก็ยังเบากว่าปีก่อนนี้
- Epic ใหม่ใช้เทคโนโลยี Rider-First Engineered ซึ่งจะนำ layups ที่ไม่ซ้ำกันและรูปทรงท่อสำหรับทุกเฟรมตั้งแต่ขนาดเล็กไปใหญ่พิเศษมาคิดค้นใหม่ เป้าหมายคือ เพื่อให้นักปั่นที่มีขนาดร่างกายที่ไม่เหมือนกัน ได้รับประสบการณ์ขับขี่ที่เหมือนกัน
Smarter (ความชาญฉลาด)
- Brain Shock ได้รับการพัฒนามานานกว่าทศวรรษ ด้วยวัตถุประสงค์ในการกำจัด lockout levers, extra cables และ remotes. The Brain ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อนักปั่นไม่ต้องกังวลในระบบโช้คอัพและมีสมาธิโฟกัสอยู่กับทางข้างหน้ามากขึ้น
- The 2018 Epic มากับฟังก์ชั่น Brain 2.0 ซึ่งเป็นระบบสมองที่ได้รับการออกแบบใหม่ซึ่งสร้างขึ้นจากรุ่นก่อนๆ ถูกย้ายไปอยู่ใกล้กับเพลาล้อหลังทำให้รู้สึกตอบสนองได้ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงเส้นทางท่อส่งน้ำมันและพอร์ตน้ำมันภายในช่วยเพิ่มความราบลื่นมากขึ้นในขณะที่ขับขี่และเพิ่มความมั่นคงได้ดีขึ้น
Faster (เร็วมากขึ้น)
- จากเส้นทางการแข่งขันแบบ Cross-country ได้กลายเป็นความท้าทายมากขึ้นและตอนนี้ต้องใช้จักรยานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เคย The 2018 Epic มีระยะเอื้อมที่ยาวกว่า (longer reach) และใช้สตรีมที่สั้นกว่า (shorter stem) รุ่นก่อนหน้า ระยะของ head tube angle ต่ำกว่าเดิม 1.5 องศา โดยรวมเป็นองศาแบบ aggressive ประมาณ 69.5 องศาด้วยกัน
- Specialized ได้ละทิ้งการออกแบบ FSR ที่เป็นที่นิยมของพวกเขาด้วย ซึ่ง new Epic นี้จะเป็นการใช้โช้คอัพหลัง แบบ single pivot มันไม่ใช่เพียงแค่การลดน้ำหนักให้เบาลงเท่านั้น แต่มันทำให้จักรยานกระด้างมากขึ้น, และมีประสิทธิภาพมากขึ้นในขณะที่เหยียบ
- เพื่อป้องกันไม่ให้ head tube angle หย่อนหรือต่ำเกินไป (slack) ทำให้ล้อหน้ารู้สึก ยวบยาบ หรือ ที่ฝรั่งเรียกว่า “floppy” นักวิศวกรของ Specialized ก็ตัดสินใจปรับออฟเซ็ทของโช้ออัพหน้ามาที่ 42 มม. จึงทำให้ไอ้เจ้า Epic ตัวใหม่นี้เสถียรมากขึ้น และยังรักษาอัตราค่าต่างๆที่ทำไว้อย่างดีในตอนทดสอบได้อย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นตอนปีนเขาและเข้าโค้ง
Women’s models (โมเดลสำหรับผู้หญิง)
Specialized เป็นบริษัทผลิตจักรยานที่ให้ความสำคัญสายการผลิตจักรยานเสือภูเขาสำหรับผู้หญิงมาอย่างตลอด และต้องการออกแบบรถจักรยานให้ออกมาเหมาะสมแบบสมบูรณ์แบบสำหรับผู้หญิงด้วย
The women’s Epic จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของกริบที่เล็กกว่า, บาร์ที่เล็กกว่า, หัวกระโหลกที่สั้นกว่า และอานเฉพาะของผู้หญิง จักรยานสำหรับผู้หญิงจะมีการออกแบบกรอบหรือเฟรมในรูปแบบเดียวกัน อย่างไรก็ตามมีเฟรมอลูมิเนียมขนาดเล็กพิเศษสำหรับสุภาพสตรีด้วย
สุดท้าย Epic ของผู้หญิงมีโช้คอัพที่เบาและมีการปรับจูน spring curve ซึ่งการปรับแต่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะเปลี่ยนทั้งโช้คหน้าและหลัง
คุณลักษณะเพิ่มเติม
- Epic S-Work models จะใช้เฟรมคาร์บอน Fact 12m carbon frames ในขณะที่ non S-Works models จะเป็น Fact 11m frames (ไม่ใช่คาร์บอน) รวมทั้งเฟรมอลูมิเนียม M5 พร้อมเทคโนโลยี D'Aluisio Smartweld ก็มีให้เลือก
- ทุกรุ่นจะใช้ Bottom Brackets แบบเกลียว, Boost hub และใช้โช้คขนาด 100 มิลลิเมตร ทั้งหน้าและหลัง
- เฟรมทั้งหมดของ Epic ถูกสร้างขึ้นด้วย RockShox/Specialized Micro Brain shock และมีคุณลักษณะ AUTOSAG ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถออกตัวได้อย่างรวดเร็ว
- เฉพาะรุ่น 29 × 2.3 "จะใช้ยาง Fast Trak ที่มี GRIPTON
- รุ่น S-Works, Pro และ Expert ใช้โช้คอัพของ RockShox SID 29 พร้อมเทคโนโลยี Brain
- ผู้ขับขี่สามารถซื้อเฟรม S-Works พร้อมกับ Brain shock และโช้คอัพได้ ช่วยให้ผู้ขับขี่สร้างรถจักรยานที่เหมาะสำหรับตนเอง
- ราคามีตั้งแต่ $2,800 ถึง $10,100
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น